Microsoft-Google-Meta อัดงบขึ้นสังเวียน Data Center ทั่วโลก แห่ทุ่มเงินลงทุนคว้าโอกาสยุค AI

Microsoft, Google และ Meta สามบริษัทยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีแข่งขันกันอย่างดุเดือดในศึก AI เดินหน้าลงทุนมหาศาลในการพัฒนาความสามารถด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI)

Microsoft ทุ่มลงทุนขยาย Data Center รุกโซนเอเชีย

รายงานของ Business Insider ระบุว่า Microsoft มีแผนจะขยายศักยภาพของ Data Center เพิ่มเป็นสองเท่าในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ 

โดยข้อมูลค่าใช้จ่ายในการลงทุน (CAPEX) ของ Microsoft ในไตรมาสที่ผ่านมานั้นสูงถึง 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 5.1 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้นเกือบ 22% เมื่อเทียบรายไตรมาส ซึ่งบริษัทก็คาดการณ์รายจ่ายในด้านโครงสร้างพื้นฐานว่าจะเพิ่มขึ้นมาตลอดทั้งปี

และเมื่อวานนี้เอง Microsoft ก็เพิ่งประกาศจัดตั้ง Data Center ระดับภูมิภาคแห่งใหม่ในประเทศไทย เพื่อขยายการให้บริการคลาวด์ให้ทั่วถึงยิ่งขึ้น 

ขณะเดียวกันก็ประกาศลงทุน 1.7 พันล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 6.2 หมื่นล้านบาท) ในอินโดนีเซีย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และแผนการลงทุนอีก 2.2 พันล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 8.1 หมื่นล้านบาท) ในมาเลเซีย เพื่อขยายโครงสร้างพื้นฐานบริการคลาวด์และ AI ตลอดระยะเวลาสี่ปีข้างหน้า ซึ่งถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ 32 ปีของ Microsoft ในประเทศมาเลเซีย

Meta เร่งพัฒนาโมเดล AI ที่ล้ำขึ้น

ขณะที่ Meta ก็เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ทุ่มเงินลงทุนมหาศาลในด้าน AI เพื่อมุ่งพัฒนาโปรดักต์และบริการ Generative AI ตลอดจนโครงการสร้าง Data Center แห่งใหม่ มูลค่ากว่า 800 ล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 2.9 หมื่นล้านบาท) ที่รัฐอินเดียนา 

โดย Meta คาดการณ์เม็ดเงินลงทุนกว่า 3.5-4 หมื่นล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 1.2-1.4 ล้านล้านบาท) เพื่อเร่งใช้จ่ายในด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับงาน AI ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายใหม่ของบริษัท

ซึ่งซีอีโออย่าง มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ก็เผยว่า Meta ควรทุ่มเงินลงทุนให้มากขึ้นในระยะหลายปีข้างหน้า เพื่อสร้างโมเดลที่ล้ำขึ้น รวมถึงบริการ AI สเกลใหญ่ที่สุดในระดับโลก

แต่ในทางกลับกันราคาหุ้นของ Meta กลับปรับตัวลดลงหลังเปิดผลดำเนินการไตรมาสแรกของปี 2567 หลังการเดิมพันในด้าน AI มูลค่าหลายพันล้านยังไม่ให้ผลตอบแทนในระยะสั้น

Google เดินหน้าลงทุนรักษาตำแหน่งผู้นำ

ขณะที่บริษัทแม่ของ Google อย่าง Alphabet ก็ได้อานิสงส์จากความต้องการของ AI ที่มีส่วนทำให้รายได้ธุรกิจคลาวด์ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2567 โตขึ้น 28% จากไตรมาสก่อนหน้ามาอยู่ที่ 9.5 พันล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 3.5 แสนล้านบาท) และมีกำไรจากการดำเนินงานกว่า 900 ล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 3.3 หมื่นล้านบาท) 

ขณะเดียวกันก็ได้ทุ่มเงินมหาศาลเพื่อพัฒนาโมเดลปัญญาประดิษฐ์ “Gemini” และรวม GenAI เข้ามาอยู่ในผลิตภัณฑ์ตั้งแต่เสิร์ชเอนจิ้นไปจนถึงซอฟต์แวร์องค์กร 

โดยในไตรมาสที่ผ่านมา Alphabet รายงานค่าใช้จ่ายในการลงทุนที่เพิ่มขึ้น 9% มาอยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 4.4 แสนล้านบาท) โดยได้แรงหนุนที่แข็งแรงจากเซิร์ฟเวอร์และ Data Center

ด้านซีอีโอ ซุนดาร์ พิชัย (Sundar Pichai) ได้ระบุกับนักวิเคราะห์ว่า การใช้จ่ายในด้าน Data Center และโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลอื่นๆ ตลอดปีจากนี้จะมีการใช้จ่ายอยู่ในระดับเดิมหรืออาจจะสูงกว่าปัจจุบัน พร้อมระบุว่า บริษัทมุ่งมั่นที่จะลงทุนที่จำเป็นเพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำในด้านโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยี

อ้างอิง

Business Insider, Microsoft, Reuters, Bisnow

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney