BYD ชิงบัลลังก์ Tesla รถ EV ขายดีที่สุดในโลก หลังตีตลาดหนัก ยอดขายพุ่งสูงทิ้งห่างกว่าล้านคัน

Tech & Innovation

Tech Companies

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

BYD ชิงบัลลังก์ Tesla รถ EV ขายดีที่สุดในโลก หลังตีตลาดหนัก ยอดขายพุ่งสูงทิ้งห่างกว่าล้านคัน

Date Time: 3 ม.ค. 2567 10:27 น.

Video

3 มาตรการใหม่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ คุมหุ้นร้อนผิดปกติ | Money Issue

Summary

  • Tesla หลุดจากตำแหน่งสูงสุดในฐานะรถยนต์ไฟฟ้ายอดนิยมอันดับหนึ่งของโลกอย่างเป็นทางการ หลัง BYD ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนคู่แข่งเบอร์ต้น รายงานตัวเลขส่งมอบครั้งล่าสุดที่แซงหน้า Tesla เป็นครั้งแรก

Latest


สำหรับไตรมาสที่สี่ของปี 2566 BYD มียอดส่งมอบรถยนต์แบตเตอรี่ไฟฟ้า (BEV) 525,409 คัน ขณะที่ไตรมาสที่สี่ Tesla มียอดส่งมอบมากกว่า 484,507 คัน รุ่นยอดนิยมยังคงเป็น Model 3 และ Model Y ในจำนวนกว่า 4 แสนคัน คิดเป็น 95% ของการส่งมอบในไตรมาสที่สี่

แม้ยอดส่งมอบจะมากกว่าคาดการณ์ แต่ก็ยังต่ำกว่าคู่แข่งคนสำคัญที่จ่อแซงเป็นอันดับหนึ่งมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในครั้งนี้ถือเป็นไตรมาสแรกที่ยอดส่งมอบเฉพาะรถยนต์แบตเตอรี่ไฟฟ้าของ BYD แซงหน้า Tesla กลายเป็นเบอร์หนึ่งในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า 

อย่างไรก็ตาม ยอดส่งรถยนต์แบตเตอรี่ไฟฟ้าสะสมทั้งปี 2566 Tesla ยังคงมากกว่า โดย Tesla มียอดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าทั้งปี อยู่ที่ 1.81 ล้านคัน และ BYD อยู่ที่ 1.6 ล้านคัน และรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดปลั๊กอิน (PHEV) 1.4 ล้านคัน รวมทั้งสิ้น 3.02 ล้านคัน ซึ่งหากนับยอดรวมรถทุกประเภท 2566 ยอดส่งมอบของ BYD ทิ้งห่าง Tesla กว่า 1.2 ล้านคันเลยทีเดียว 

BYD ประสบความสำเร็จด้วยยอดขายกว่า 600,000 คัน ในไตรมาสเดียว และมีอัตราการเติบโตถึง 5 เท่าจากปี 2565  ซึ่งหากนับรวมทั้งยอดรถยนต์ไฟฟ้าทุกประเภท BYD สามารถเหยียบคันเร่งเบียดแชมป์เดิมอย่าง Tesla ในฐานะผู้ขายรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลกได้สำเร็จแล้วตั้งแต่ช่วงต้นปี 2566 โดยในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา BYD นำมาเป็นอันดับหนึ่งด้วยยอดขาย 1.7 ล้านคัน ทิ้งห่างอันดับสองอย่าง Tesla ที่ขายได้ 1.1 ล้านคัน 

การเปลี่ยนแปลงในช่วงปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของค่ายรถจีนในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นปริมาณการผลิตและยอดขายที่แซงหน้ารายใหญ่ในสหรัฐฯ เกาหลีใต้ เยอรมัน รวมถึงญี่ปุ่น ในฐานะผู้ส่งออกรถยนต์ส่วนบุคคลรายใหญ่ที่สุดของโลกตลอดกาล 

โดยเฉพาะในแวดวง EV ที่จะเห็นแล้วจีนกำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในการเปลี่ยนผ่านสู่ยานพาหนะไฟฟ้า ซึ่งได้แรงหนุนหลักมาจากรัฐบาล ผ่านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและการอุดหนุนทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีนขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ง่าย

นอกจากนี้ ยังมีการตั้งเป้าหมายใหญ่ว่า รถยนต์ใหม่ที่จำหน่ายต่อปีในจีนภายในปี 2568 ควรเป็นรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) อย่างน้อย 20% ซึ่งรวมถึง BEV รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดและรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน และ ภายในปี 2578 รถยนต์ NEV จะกลายเป็นรถที่ทุกบ้านใช้งานทั่วไป  

ทั้งนี้ตามข้อมูลที่เผยแพร่โดยสมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งประเทศจีน ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2566 ยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ในจีนพุ่งสูงถึง  8.3 ล้านคัน คิดเป็นมากกว่า 30% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมด ทำให้เป้าหมายการเพิ่มรถยนต์ NEV เดิมของรัฐบาลที่ 50% ภายในปี 2578 มีแนวโน้มที่จะบรรลุเป้าหมายภายในปี 2568 หรือ 2569 อย่างช้าที่สุด 

สำหรับปี 2567 นี้คาดว่าจะเป็นปีทองของ EV จีน ค่ายไหนจะแซงหน้าขึ้นมาอีก ต้องจับตาดูกันต่อไป 

อ้างอิง TeslaCNN Bloomberg 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์