Apple เดินสายเจรจาสื่อชื่อดัง ยินดีจ่ายเงินทำข้อตกลง นำบทความมาเทรน AI ของตัวเอง

Apple เดินหน้าเจรจาทำข้อตกลงกับผู้จัดพิมพ์และสำนักข่าวที่มีชื่อเสียงอย่างสำนักข่าว NBC และ IAC ซึ่งเป็นเจ้าของ People, The Spruce, Entertainment Weekly, The Daily Beast, Better Homes and Gardens และ Condé Nast ผู้จัดพิมพ์ Vogue และ The New Yorker 

โดยมีการรายงานข้อตกลงดังกล่าวมีมูลค่าอย่างน้อย 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.7 พันล้านบาท เพื่อมอบสิทธิ์ให้ Apple เข้าถึงคลังบทความข่าวที่มีคุณภาพ และสามารถทำการเก็บบทความข่าวเหล่านั้นไปใช้ฝึกฝนโมเดล AI ของตนเอง 

Apple ระบุว่า เนื่องจากบริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะรักษาเรื่องความเป็นส่วนตัว พวกเขาจึงลังเลที่จะใช้ข้อมูลที่รวบรวมจากอินเทอร์เน็ตตลอดช่วงที่ผ่านมา และการทำข้อตกลงกับสื่อในครั้งนี้ บริษัทมีเจตนาที่ดีและยินดีที่จะจ่ายเงินเพื่อเข้าถึงทรัพยากร เพื่อป้องกันปัญหาเรื่องการใช้ข้อมูลฝึกฝนโมเดล AI โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้สร้างหรือผู้ถือลิขสิทธิ์ 

ด้านผู้จัดพิมพ์มีการตอบกลับข้อตกลงที่แตกต่างกัน บางรายชื่นชมที่ Apple ขอใช้เนื้อหาของตนอย่างเป็นทางการแทนที่จะคัดลอกข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตในวงกว้างโดยไม่ได้รับอนุญาต และมองเห็นโอกาสของเทคโนโลยีในอนาคต อย่างไรก็ตามบางรายมีความกังวลว่า Apple ยังขาดความชัดเจนในการใช้งาน AI เฉพาะกับเนื้อหาข่าว 

ความเคลื่อนไหวในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึง การจัดการความท้าทายด้านลิขสิทธิ์และความถูกต้องของข้อมูล ซึ่งสอดคล้องกับปรัชญาที่มุ่งเน้นความเป็นส่วนตัวของ Apple และเป็นไปในทิศทางเดียวกับ OpenAI ที่เริ่มทำข้อตกลงกับองค์กรสื่อรายใหญ่เพื่อขอนำเนื้อหาข่าวมาใช้เทรนโมเดล AI เช่นเดียวกัน

โดยความเคลื่อนไหวล่าสุดของ Apple ในสนาม AI หลังจากสงวนท่าทีต่อ AI มาอย่างต่อเนื่อง เริ่มต้นเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา หลัง Apple ออกมาประกาศว่าตนกำลังสร้างโมเดลภาษา Large Language Model (LLM) ซึ่งเป็นระบบ AI ที่เป็นหัวใจสำคัญของแชตบอตอย่าง ChatGPT และ Bard โดยระบบดังกล่าวใช้ชื่อว่า “Ajax” หรือที่เหล่าวิศวกรเรียกว่า AppleGPT พร้อมกับแผนบูรณาการ AI ใหม่ๆ ในแอปพลิเคชันของ Apple สำหรับ iOS18 เราอาจเห็น Apple News โฉมใหม่หลังจากนี้ก็เป็นได้ 

Apple จะสามารถก้าวทันตามคู่แข่งที่ลงสนามก่อนหน้านี้ Microsoft, OpenAI, Google, Meta หรือบริษัทอื่นๆ ที่พากันปรับทิศทางธุรกิจเพื่อเบนเข็มเข้าหาเทคโนโลยี AI หรือไม่ ต้องจับตาดูต่อไป

อ้างอิง New York Times