Adobe ประกาศเข้าซื้อกิจการ Figma บริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ด้านการออกแบบชื่อดังในเดือนกันยายน ปี 2020 ด้วยข้อตกลงเงินสดและหุ้นมูลค่าประมาณ 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 7 แสนล้านบาท โดย Adobe จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการเลิกราครั้งนี้ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับ Figma โดย Adobe กล่าวว่า จะมองหาวิธีในการเป็นพันธมิตรกับ Figma ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ดีลนี้ถูกสอบสวนอย่างหนักจากหน่วยงานกำกับดูแลทั้งสหรัฐอเมริกา โดยกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกา (DOJ) และสหราชอาณาจักร โดยหน่วยงานกำกับดูแลการต่อต้านการผูกขาดยุโรป เพราะการเข้าซื้อ Figma นับเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจในแขนงเดียวกันมาเป็นของตนเอง ทำให้คู่แข่งในตลาดหายไปหนึ่งราย ซึ่งทำให้ Adobe มีศักยภาพในตลาดแพลตฟอร์มดีไซเนอร์ แม้ว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะไม่เหมือนกัน แต่ Figma ถือได้ว่าเป็นผู้นำตลาดที่ชัดเจนในด้านเครื่องมือสำหรับออกแบบ UI/UX
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการยุโรปได้สรุปเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมาว่า ดีลดังกล่าว “เป็นอันตรายต่อนวัตกรรม”
Shantanu Narayen ซีอีโอของ Adobe กล่าวในแถลงการณ์ว่า ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับคำตัดสิน Adobe และ Figma มีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการกำหนดนิยาม Future of creativity ที่ผ่านมา เป้าหมายการควบรวมกันของ Adobe และ Figma จะนำเข้าสู่ยุคใหม่ของความคิดสร้างสรรค์ในการทำงานร่วมกัน
“ทั้ง Adobe และ Figma ตกลงร่วมกันที่จะยุติการซื้อขายกิจการ ผ่านการประเมินร่วมกันว่าไม่มีเส้นทางที่ชัดเจนในการได้รับการอนุมัติตามกฎระเบียบที่จำเป็นจากคณะกรรมาธิการยุโรปและการแข่งขันในสหราชอาณาจักร แม้ว่าทั้งสองบริษัทจะยังคงเชื่อในข้อดีและผลประโยชน์ของการควบรวมกิจการ”
อ้างอิง Figma, Bloomberg , Techcrunch