NVIDIA จับมือ Foxconn สร้างโรงงาน AI ร่วมกัน ท่ามกลางความเสี่ยง สกัดกั้นเทคฯ ระหว่างสหรัฐฯ-จีน

เจนเซน หวง ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ NVIDIA และ ยัง หลิว ประธานและซีอีโอของ Foxconn ร่วมแสดงความคิดเห็นบนเวทีงาน Hon Hai Tech Day งานสัมมนาประจำปีของ Foxconn ที่จัดขึ้นในไทเปถึงการผนึกกำลังร่วมกันปฏิวัติอุตสาหกรรม AI ร่วมกันเสริมแกร่งกระบวนการผลิตชิป AI ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น 

Foxconn ระบุ บริษัทจะมีการบูรณาการเทคโนโลยี NVIDIA เพื่อพัฒนาศูนย์ข้อมูลที่ขับเคลื่อนด้วยแอปพลิเคชันที่หลากหลาย สร้างแพลตฟอร์มโซลูชันอัจฉริยะที่จะใช้เทคโนโลยีการประมวลผลและเครือข่ายของ NVIDIA เป็นหลักสำหรับฐานลูกค้าทั่วโลกหลังจากนี้ 

โดยการสร้างโรงงาน AI จะถูกพัฒนาจากแพลตฟอร์มและโครงสร้างพื้นฐานการประมวลผลของ NVIDIA ที่นำมาใช้งาน อาทิ NVIDIA H100 Tensor Core GPU, NVIDIA HGX, NVIDIA OVX, NVIDIA Omniverse รวมถึง NVIDIA GH200 Grace Hopper Superchip และซอฟต์แวร์ NVIDIA AI Enterprise ล่าสุด 

Foxconn Smart EV จะสร้างขึ้นบน NVIDIA DRIVE Hyperion™ 9 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเจเนอเรชันถัดไปสำหรับกลุ่มยานยนต์ไร้คนขับ ที่ขับเคลื่อนโดย NVIDIA DRIVE Thor™ ซึ่งเป็นระบบยานยนต์บนชิปแห่งอนาคต นอกจากนี้ยังครอบคลุมถึงการสร้างโมเดล AI ขั้นสูง ระบบหุ่นยนต์ Foxconn Smart Manufacturing จะถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มหุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ NVIDIA Isaac™ อีกด้วย 

ด้าน NVIDIA ที่กำลังเผชิญความท้าทายหลักจากนโยบายสกัดกั้นการส่งออกที่ประกาศโดยฝ่ายบริหารของรัฐบาลโจ ไบเดน เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ระบุว่า บริษัทต้องขยายความร่วมมือกับ Foxconn ที่มีมานานนับทศวรรษ เพื่อเร่งให้เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรม AI โดย Foxconn คือผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นผู้ผลิตแผ่นวงจรรายใหญ่ของอุตสาหกรรม มีความเชี่ยวชาญและขนาดในการสร้างโรงงาน AI ทั่วโลก 

อย่างไรก็ตาม NVIDIA และบริษัทชิป AI อื่นๆ Intel, Broadcom, AMD, Marvell หุ้นร่วงลงในเช้าวันอังคารที่ผ่านมา หลังกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ประกาศข้อจำกัดการขายและส่งออกชิปสำหรับ AI ไปยังจีนเพิ่มเติ่ม จากข้อกำหนดที่ประกาศออกมาในปีที่แล้ว ซึ่งจะประกาศออกมาในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า 

โดยก่อนหน้านี้ NVIDIA เชื่อว่าข้อจำกัดที่เพิ่มขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบที่มีนัยสำคัญต่อผลการดำเนินงานและรายได้ในทันที อย่างไรก็ตามบริษัทคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อยอดขายที่จะปรับตัวลดลงในระยะยาว ตามแถลงการณ์เมื่อเดือนสิงหาคม

อ้างอิง CNBC , CNBC , Bloomberg