ใกล้ชิดกว่าที่เคย Adobe ตั้งฐานทัพในไทย รุกธุรกิจเพื่อคนตัวเล็ก SME และครีเอเตอร์ หนุนพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล

หลังประกาศเปิดสำนักงานที่เมืองไทยอย่างเป็นทางการ ไซมอน เดล รองประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเกาหลี เปิดเผยว่า Adobe ต้องการทำงานร่วมกับพันธมิตรและลูกค้าไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อทำความเข้าใจถึงความต้องการของธุรกิจและเพิ่มโอกาสในการสร้างงานให้กับคนไทย ในครั้งนี้จะมุ่งขยายไปยังกลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก SME และลูกค้าทั่วไป ทั้งนี้พร้อมสนับสนุนรัฐบาลใหม่หลังการเลือกตั้งผลักดันนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล 

Adobe เปิดเผยว่า หลายปีมานี้ ดิจิทัลทรานฟอร์เมชัน เข้ามาขับเคลื่อนอุตสาหกรรมทุกวงการ และ “เศรษฐกิจดิจิทัล” กลายเป็นเศรษฐกิจหลักและมีบทบาทสำคัญในชีวิตหลากหลายส่วนของผู้บริโภค เกือบทุกประสบการณ์ของคนในยุคนี้ถูกผสานเข้ากับเทคโนโลยีดิจิทัลในทางใดทางหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้บริโภควัยรุ่นที่เห็นตรงกันว่า เศรษฐกิจดิจิทัลมีบทบาทอย่างมากต่อชีวิต และคาดหวังต่อประสบการณ์แบบ Personalized จากแบรนด์ 

ขณะเดียวกันมีความต้องการในการเสพเนื้อหาและคอนเทนต์ดิจิทัลผ่านช่องทางต่างๆ เฉพาะบุคคลที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 2 เท่า และในอีก 2 ปีข้างหน้าจะเพิ่มอีก 5 เท่า ในภาคธุรกิจเอง เหล่านักการตลาดล้วนมองว่าธุรกิจจะไปต่อไม่ได้หากปราศจากเศรษฐกิจดิจิทัล เพราะทุกวันนี้แม้เศรษฐกิจจะอยู่ในช่วงขาลง แต่ลูกค้ากลับคาดหวัง “ประสบการณ์ที่ดีมากขึ้น” ปริมาณของ Digital Content ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิด Ecosystem ของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ขนาดใหญ่ที่จะพัฒนาไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล จุดนี้เองนำไปสู่ความจำเป็นที่จะต้องมีระบบการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ  

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา Adobe ได้ให้ความสำคัญกับการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทั่วไปโดยตรงนอกเหนือมาอย่างต่อเนื่อง เริ่มดำเนินกลยุทธ์โซลูชันด้าน Digital Experience ในการสร้างแพลตฟอร์มโซลูชันให้กับองค์กรธุรกิจ เพื่อตอบโจทย์แบรนด์ในการสร้างประสบการณ์ดิจิทัลสำหรับลูกค้า ทั้งนี้ได้เปิดบริการใหม่ล่าสุด Adobe Experience Cloud, Adobe Express, Adobe FireFly แอปพลิเคชันโซลูชันใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย Generative AI และ Marketing Technology ครอบคลุมทั้งกระบวนการทำงานด้านการสร้างสรรค์คอนเทนต์ การติดตามพฤติกรรมแบบเรียลไทม์ การวิเคราะห์ข้อมูล และการวัดประสิทธิภาพ

ไซมอน เดล กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเทศไทยมีเศรษฐกิจดิจิทัลที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง หากเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคเดียวกัน โดยเฉพาะความสามารถในการผลิตคอนเทนต์ของคนไทย โดย Adobe อยู่ในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์เป็นทุนเดิมและมีผลงานที่พิสูจน์ให้เห็นความสำเร็จทั้งในธุรกิจ Media Entertainment, Retail, Telco และ Financial ซึ่งการเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยในครั้งนี้ต้องการขับเคลื่อนไปยังธุรกิจขนาดเล็กรวมถึงธุรกิจที่ติดตลาดมากยิ่งขึ้น 

ทั้งนี้ยังเปิดเผยอีกว่า พร้อมสนับสนุนการทำงานด้าน Digital Economy ของประเทศไทย ต้องการรับทราบเกี่ยวกับทิศทางและนโบายด้านเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อพิจารณาว่าบริษัทจะสามารถมีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยได้มากน้อยเพียงใด สอดคล้องกับเป้าหมายที่ต้องการสร้างการเติบโตให้ธุรกิจไทยและการส่งออก Creativity ของคนไทยสู่ระดับโลก 

สำหรับสำนักงานแรกของ Adobe ตั้งอยู่ที่ตึกปาร์ค เวนเจอร์ ย่านเพลินจิต กรุงเทพฯ โดยในวันที่ 23 พฤษภาคม 2566 ทาง Adobe จัดงาน Best of Adobe Summit:Thailand Edition พูดคุยกับธุรกิจไทยครั้งแรกอย่างเป็นทางการ หลังจัดตั้งสำนักงาน โดยจะประกอบไปด้วย เทรนด์ล่าสุดเทคโนโลยี และ Best practices ในระดับเอเชียแปซิฟิก การวางกลยุทธ์และพื้นฐานเทคโนโลยีรองรับความต้องการของลูกค้าแบบดิจิทัลในปัจจุบัน.