Bernard Arnault (เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์) ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ LVMH บุคคลที่รวยเป็นอันดับต้นๆ ของโลก หรือที่เรารู้จักกันดีในฐานะเจ้าพ่อแห่งวงการลักชัวรี่ผู้ครองอาณาจักรหรู LVMH ที่นอกเหนือจากแฟชั่นแบรนด์เนม เครื่องประดับสุดหรู และสินค้าไฮเอนด์เกือบร้อยแบรนด์ที่บริหารจัดการในเครือแล้ว ยังขึ้นชื่อเรื่องการลงทุนในทรัพย์สินและของสะสมมูลค่าสูงอีกด้วย
แต่รู้หรือไม่ว่า นอกจากงานฝีมือหรูหรา ของสวยงามบันเทิงเริงรมย์แล้ว เขายังทุ่มเงินมหาศาลในธุรกิจและนวัตกรรมแห่งอนาคต โดยเฉพาะ AI หนึ่งในเทคโนโลยีปฏิวัติวงการที่มีเม็ดเงินลงทุนไหลเวียนจากทั่วโลกมากที่สุดในขณะนี้ บอกเลยว่า LVMH ก็เอากับเขาด้วย…
สื่อต่างประเทศรายงานว่า ในช่วงที่ผ่านมา Bernard Arnault ได้ลงทุนซื้อบริษัทเทคโนโลยีจำนวนมากไว้ในครอบครอง โดยเฉพาะบริษัทสตาร์ทอัพด้านปัญญาประดิษฐ์ ผ่านบริษัทของครอบครัวซึ่งเป็นกองทุนที่จัดขึ้นโดยเน้นการลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีที่ชื่อว่า “Aglaé Ventures”
ตามรายงานของ Fintrx ผู้ให้บริการด้านฐานข้อมูลสำหรับสำนักงานจัดการทรัพย์สินของธุรกิจที่ดำเนินการโดยครอบครัว ระบุว่า Bernard Arnault ขยายพอร์ตเทคโนโลยีไม่แพ้แฟชั่น โดยพบว่า ในปีนี้ของ Aglaé ลงทุนไปแล้ว 5 ครั้ง รวมแล้วเกือบ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีรอบการระดมทุนที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีมา รวมมูลค่ามากกว่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นการลงทุนใน “Holistic AI” สตาร์ทอัพด้าน AI สัญชาติฝรั่งเศสที่ก่อตั้งโดยอดีตสมาชิกของหน่วย DeepMind AI ของ Google โดยมี Accel Partners LP และ Wendy และ Eric Schmidt อดีตซีอีโอของ Google ร่วมลงทุน
ต่อเนื่องด้วย “Lamini” โซลูชัน AI สำหรับองค์กรที่ตั้งอยู่ในเมืองพาโลอัลโต รัฐแคลิฟอร์เนีย โดย Aglaé ลงทุนในรอบ Seed Round มูลค่า 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
“Proxima” บริษัทการตลาดดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในนิวยอร์ก มูลค่า 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในรอบ Series A
“Borderless AI” แพลตฟอร์มการจัดการทรัพยากรบุคคลที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในโทรอนโต รอบ Seed Round มูลค่า 27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
“Photoroom” โปรแกรม AI image editor ในฝรั่งเศส รอบ Seed Round มูลค่า 43 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ตามข้อมูลจาก Crunchbase ระบุว่า Aglaé Ventures คือ Venture Capital ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 โดยมี Groupe Arnault เป็นผู้สนับสนุน พร้อมกับจุดยืนในการสนับสนุนผู้ประกอบการที่มุ่งมั่นสร้างผลิตภัณฑ์และบริการเปลี่ยนโลก ซึ่งเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าการลงทุนอย่างต่อเนื่องในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ จะสร้างผู้นำระดับโลกอีกมากมายในอนาคต
ปัจจุบัน Aglaé มีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงปารีส นิวยอร์ก และซานฟรานซิสโก โดย Aglaé เน้นลงทุนตั้งแต่ Seed Round ไปจนถึง Pre-IPO มูลค่าตั้งแต่ 100,000 ยูโรถึง 100 ล้านยูโร โดยมีโฟกัสตั้งแต่ Marketplace, SaaS (Software as a services), Content platforms (Social networks, communication platform, streaming), Dev & App tools และ Digital native brands
Aglaé มีประวัติการลงทุนมาอย่างต่อเนื่องและเป็นส่วนหนึ่งของการระดมทุนใหญ่หลากหลายครั้ง โดยเฉพาะในปีแรก Aglaé ลงทุนไปแล้วทั้งหมด 153 ครั้ง แบ่งเป็นการลงทุนในด้านเทคโนโลยี 53 ครั้ง ด้านสินค้าอุปโภคบริโภค 17 ครั้ง ด้านบริการสำหรับองค์กรธุรกิจ 13 ครั้ง และด้านบริการทางการเงิน 12 ครั้ง โดยพบว่าใน Aglaé ลงทุนใน “Meero” ผู้พัฒนาภาพที่เจเนอเรตโดย AI ในฝรั่งเศสมากถึง 4 ครั้งในช่วง 2017-2019
นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมายังพบการลงทุนอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกจำนวนมาก เช่น “Sonarverse” บริษัทบล็อกเชนที่ตั้งอยู่ในเออร์ไวน์ รัฐแคลิฟอร์เนีย และ “Shimmer” ผู้ให้บริการด้าน ADHD Coaching ที่ตั้งอยู่ในซานฟรานซิสโก “LaCollection” แพลตฟอร์มศิลปะดิจิทัล และ “Chrono24” แพลตฟอร์มซื้อขายนาฬิกา
หากเราย้อนดูจะพบว่า Bernard Arnault มีประวัติการสนับสนุนสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีที่ประสบความสำเร็จมาแล้วหลายราย Aglaé ของเขาเป็นนักลงทุนรายแรกๆ ใน Netflix ปี 1999 Spotify ในปี 2014 และ Airbnb ในปี 2015 และอื่นๆ อย่าง Algolia, Backmarket, Betfair, Databricks, Lyft และ Slack สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจของเขาในโลกเทคโนโลยีมาอย่างยาวนาน
นอกจากนี้ที่ผ่านมาเขายังริเริ่มจัดงานสัมมนาด้านเทคโนโลยีที่ชื่อว่า “LVMH Data AI Summit” ที่รวบรวมผู้ประกอบการในเครือกว่า 60 ราย และผู้ที่สนใจจากทั่วโลก มาร่วมกันแบ่งปันแนวคิด สำรวจหัวข้อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการกำกับดูแลข้อมูล การพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้า การพัฒนาอัลกอริทึม แพลตฟอร์มและด้านห่วงโซ่อุปทาน ไปจนถึงการจัดตั้งพันธมิตรด้านการศึกษา โครงการเวิร์กช็อปและการแข่งขัน Hackathon
Bernard Arnault เคยกล่าวถึงวิสัยทัศน์ของเขาในงาน LVMH Innovation Awards Arnault โดยกล่าวว่า เขาได้ลงทุนในสตาร์ทอัพ 75 แห่งในช่วงทศวรรษ 1990 และ “บางแห่งประสบความสำเร็จ แต่หลายแห่งไม่ประสบความสำเร็จ” โดยเขากล่าวชื่นชมแนวคิดของบรรดาสตาร์ทอัพทั้งหลายว่า “จุดริเริ่มของธุรกิจที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ คุณภาพ และความคาดหวังว่าจะต้องใช้งานได้จริง คือ จิตวิญญาณและความหมายที่แท้จริงของผู้ประกอบการ” ซึ่งนั่นใกล้เคียงกับคุณค่าที่ LVMH ให้ความสำคัญนั่นเอง
อ้างอิง CNBC, Aglaé Ventures
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้
https://www.facebook.com/ThairathMoney