3 สตาร์ทอัพตัวท็อป ฝากรัฐบาลใหม่ ไทยแข่งขันทันโลก ต้องเปิดโอกาสมากกว่าปกป้องตัวเอง

Tech & Innovation

Startup

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

3 สตาร์ทอัพตัวท็อป ฝากรัฐบาลใหม่ ไทยแข่งขันทันโลก ต้องเปิดโอกาสมากกว่าปกป้องตัวเอง

Date Time: 25 ส.ค. 2566 18:50 น.

Video

ล้วงไส้ TEMU อีคอมเมิร์ซจีน บุกไทย ทำไมอาจสร้างวิบากกรรมกว่าที่คิด ? | Digital Frontiers

Summary

  • สามยูนิคอร์นไทย Ascend Money, Flash และ Bitkub ร่วมให้ความเห็นบนเวทีเสวนาหัวข้อ 'Unicornomics Taming the Wild Future' ภายในงาน HACKaTHAILAND 2023: DIGITAL INFINITY มหกรรมแสดงเทคโนโลยีดิจิทัล ถึงทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล การยกระดับระบบนิเวศสตาร์ทอัพไทยให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพและก้าวหน้าไปไกลกว่าที่เป็นอยู่

สามยูนิคอร์นไทย Ascend Money, Flash และ Bitkub ร่วมให้ความเห็นบนเวทีเสวนาหัวข้อ 'Unicornomics Taming the Wild Future' ภายในงาน HACKaTHAILAND 2023: DIGITAL INFINITY มหกรรมแสดงเทคโนโลยีดิจิทัล ถึงทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล การยกระดับระบบนิเวศสตาร์ทอัพไทยให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพและก้าวหน้าไปไกลกว่าที่เป็นอยู่

นายคมสันต์ ลี ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด ฯลฯ ให้ความเห็นว่า ปัจจุบันถึงเวลาที่ไทยจะต้องสร้างโอกาสให้คนไทยได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพื่อเปิดรับธุรกิจและเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาพัฒนาจุดที่ไทยยังแข่งขันไม่ทัน พร้อมยกตัวอย่าง แนวทางของประเทศจีนที่มีการเปิดรับผู้ผลิตของอุตสาหกรรมระดับโลกให้เข้ามาดำเนินธุรกิจ ซึ่งถือเป็นการเปิดโอกาสให้กับประเทศ มีการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีเพื่อนำมายกระดับภาคผลิตและภาคธุรกิจในประเทศ เปิดการแข่งขันให้มีการสร้างอะไรใหม่ๆ จำนวนมาก

“สังคมไทยยังเป็นสังคมอนุรักษนิยม อยากจะปกป้องตัวเองมากกว่าจะเปิดรับโอกาส ไม่ว่าจะในเชิงกฎหมายและเชิงธุรกิจ จีนเดิมทีไม่มีอุตสาหกรรมมือถือแต่เปิดต้อนรับทุกค่ายเข้ามาตั้งฐานผลิต จนปัจจุบันค่ายมือถือจากจีนออกขายทั่วโลก รวมถึงอุตสาหกรรมรถยนต์ซึ่งปัจจุบันค่ายรถยนต์ไฟฟ้าจีนขึ้นเป็นอันดับต้นของโลก”

ด้าน นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ให้ความเห็นว่า การจะผลักดันให้เกิดเศรษฐกิจดิจิทัลขึ้นมาได้ ประเทศจำเป็นต้องมีโครงสร้างพื้นฐานและห่วงโซอุปทานดิจิทัลรองรับทุกมิติ โดยหน่วยงานสำคัญที่จะเป็นตัวการหลักนั้น กล่าวคือ กระทรวงดิจิทัลต้องเป็นกระทรวงเกรดเอ ต้องเพิ่มการสนับสนุนงบประมาณมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะหลังจากนี้เม็ดเงินจะไหลเข้าอุตสาหกรรมใหม่ ซึ่ง 'เศรษฐกิจดิจิทัล' จะเป็นภาคส่วนสำคัญที่จะขับเคลื่อนการเติบโตของประเทศ

ซึ่งช่วงก่อนหน้านี้ เครือข่ายสตาร์ทอัพยังไม่เติบโตเท่าปัจจุบัน ยังไม่มีหน่วยงานให้คำปรึกษาและต้นแบบที่ประสบความสำเร็จภายในประเทศ ไม่มีกรอบการดำเนินงานหรือนโยบายสนับสนุนรองรับมากพอ ทำให้ผู้เล่นในช่วงแรกต้องฝ่าอุปสรรคและปฏิบัติงานภายใต้เพื่อให้ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับดูแลอย่างเคร่งครัด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสตาร์ทอัพที่มีอัตราเติบโตสูงนั้นก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน เมื่อต้องการขยายการดำเนินงานเพื่อรองรับการให้บริการ รวมถึงวิธีบริหารทรัพยากรให้เหมาะสมขณะที่องค์กรอย่างขยายอย่างรวดเร็ว   

สำหรับสิ่งที่รัฐบาลควรดำเนินการเป็นสำคัญ คือ การลงทุนใน 'คน' (Human Capital) ปลดล็อกศักยภาพคนไทย รัฐต้องสนับสนุนภาคแรงงานทักษะสูง การพัฒนากำลังคนและผู้ประกอบการที่มีองค์ความรู้และสร้างนวัตกรรมขั้นสูง ยกตัวอย่าง แรงจูงใจรูปแบบต่างๆ การสนับสนุนด้านการเงิน ด้านภาษีที่ครอบคลุมการดำเนินงาน 

รวมถึงการลดอุปสรรคที่จะเป็นกำแพงกั้นไม่ให้คนเก่งเข้ามาในประเทศ พร้อมกับการแสดงความเชื่อมั่นต่อธุรกิจหรืออุตสาหกรรมใหม่ โดยหน่วยงานต่างๆ ต้องทำความเข้าใจร่วมกัน ประนีประนอมเพื่อหาจุดสมดุลระหว่างการควบคุมความเสี่ยงและการสร้างแนวทางเพื่อพัฒนาภาคส่วนใหม่ๆ ที่มีศักยภาพเติบโตต่อไปในอนาคต  

ด้าน นายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเซนด์มันนี่ จำกัด ให้ความเห็นว่า หน่วยงานกำกับดูแลต้องสร้างกฎระเบียบที่ให้ทุกคนเติบโตได้อย่างเท่าเทียมกัน ระบบที่ให้ทุกคนสามารถเติบโตได้ดีขึ้นกว่าเดิมขณะที่ต้นทุนน้อยลง พร้อมทั้งวางเครือข่ายทางดิจิทัลที่สามารถเชื่อมโยงระบบ สร้างการทำงานร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้ผู้ประกอบการเข้าถึงทรัพยากรต่างๆ ที่จำเป็นต่อการพัฒนาธุรกิจ และยังทำให้คนไทยเข้าถึงดิจิทัลได้ง่ายขึ้นอีกด้วย   

สำหรับพิธีเปิด นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ซึ่งเป็นประธานในพิธี พร้อมกล่าวสนับสนุน “กระทรวงดิจิทัลฯ มุ่งมั่นผลักดันประเทศไทยสู่เศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนากำลังคนและบุคลากรดิจิทัลผ่านการเสริมสร้างความรู้ และทักษะด้านดิจิทัลที่จำเป็นแก่ประชาชนทุกช่วงวัยให้สามารถต่อยอดประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างเหมาะสม ปลอดภัย พร้อมรับมือกับทุกความเปลี่ยนแปลงในโลกอนาคต”

นอกจากนี้ภายในงาน HACKaTHAILAND 2023: DIGITAL INFINITY ยังมีพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลระหว่าง ดีป้า และ Australian-Thai Chamber of Commerce, Malaysian Research Accelerator for Technology & Innovation (MRANTI), บริษัท ทีบีเอ็น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด 

รวมไปถึงเวที Pitching การจัดแสดง Showcase เทคโนโลยีของคนไทยหลากหลายด้าน เช่น เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) เทคโนโลยีเพื่อการซื้อ-ขายในโลกยุคใหม่ การเปิดตัวแพลตฟอร์มข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Platform) ด้าน E-commerce เทคโนโลยีด้านการท่องเที่ยวแห่งอนาคตรองรับการท่องเที่ยวที่เป็นอุตสาหกรรมเสาหลักของประเทศ รวมถึงอุตสาหกรรมคอนเทนต์ และสุขภาพ 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์