หุ้นของ SVB Financial Group ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Silicon Valley Bank (SVB) ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในซิลิคอนวัลเลย์ ที่เน้นปล่อยกู้ให้กับเหล่าสตาร์ทอัพที่เปิดมาตั้งปี 1982 ปรับตัวลดลงกว่า 60% ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังประสบปัญหาด้านสภาพคล่อง ลูกค้าสตาร์ทอัพแห่ถอนเงินสดสูงเป็นประวัติการณ์ จนทำให้ต้องเทขายพันธบัตรและสินทรัพย์ในราคาขาดทุน 1.8 พันล้านดอลลาร์ จนต้องประกาศขายหุ้นเพิ่มทุน เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นทางการเงิน
ด้าน Greg Becker ประธานบริหารของ SVB ได้ชี้แจงและออกจดหมายเปิดผนึกถึงผู้ถือหุ้นว่า ธนาคารมีสภาพคล่องและความยืดหยุ่นเพียงพอในการจัดการสถานะทางการเงิน
โดยปีที่ผ่าน ธนาคารประสบปัญหาความสามารถในการทำกำไรลดลง เงินฝากมีปริมาณที่ลดลง อีกทั้งเงินทุนของลูกค้าบริษัทและสตาร์ทอัพลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการเผาผลาญเงินสดที่สูงกว่าระดับก่อนปี 2564 ถึง 2 เท่า แม้ว่าสภาวะการระดมทุนในตลาดปัจจุบันอยู่ในช่วงที่ชะลอตัวลง
ธนาคารได้คาดการณ์เงินฝากเฉลี่ย สำหรับไตรมาสแรกจะอยู่ที่ 171 พันล้านดอลลาร์ถึง 175 พันล้านดอลลาร์ แต่การคาดการณ์นั้นลดลงเหลืออยู่ที่ 169 พันล้านดอลลาร์ อีกทั้งยังคาดว่าลูกค้าบริษัทจะยังคงใช้เงินสดในระดับเดียวกับที่เคยทำในปีที่แล้ว อีกทั้งปัจจัยด้านการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อยิ่งส่งผลให้หุ้นกลุ่มธนาคารรับแรงกดดันจากความเสี่ยงดังกล่าว
นักวิเคราะห์ ระบุ บริษัทฯ ไม่ได้ปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมการระดมทุนที่ช้าลง ด้านนักลงทุนระมัดระวังมากขึ้น เงินร่วมลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ผ่านเข้าออกจากกองทุนของธนาคาร ยิ่งแสดงถึงการจัดการเงินทุนมีความเสี่ยงสูงในขณะนี้
อ้างอิง CNN