CHG ผนึก PTG ทุ่ม 136 ลบ. ลงทุน ‘อรินแคร์’ สตาร์ทอัพร้านขายยาออนไลน์ ดัน IPO ใน 3 ปี

Tech & Innovation

Startup

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

CHG ผนึก PTG ทุ่ม 136 ลบ. ลงทุน ‘อรินแคร์’ สตาร์ทอัพร้านขายยาออนไลน์ ดัน IPO ใน 3 ปี

Date Time: 5 ม.ค. 2566 18:03 น.

Video

ทางรอดเศรษฐกิจไทยในยุค AI ครองโลก | 1st Anniversary Thairath Money

Summary

  • กลุ่ม รพ.จุฬารัตน์ ผนึก PTG ทุ่ม 136 ลบ. ลงทุน ‘อรินแคร์’ สตาร์ทอัพแพลตฟอร์มร้านขายยาออนไลน์ ในรอบ Series B ต่อยอดระบบนิเวศ Health Tech ไทย พร้อมดันเข้าตลาดหุ้น mai ในปี 2569

CHG ผนึก PTG ทุ่ม 136 ลบ. ลงทุน ‘อรินแคร์’ สตาร์ทอัพแพลตฟอร์มร้านขายยาออนไลน์ ในรอบ Series B ต่อยอดระบบนิเวศ Health Tech ไทย พร้อมดัน IPO ตลาดหุ้น mai ในปี 2569

นายธีระ กนกกาญจนรัตน์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อรินแคร์ จำกัด สตาร์ทอัพไทยผู้ให้บริการแพลตฟอร์มร้านขายยาออนไลน์ เปิดเผยว่า บริษัทได้มีการระดมทุนและปิดดีลในรอบ Series B ด้วยมูลค่า 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 136 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ) จากกลุ่มโรงพยาบาลจุฬารัตน์ (CHG) เป็นผู้ร่วมลงทุนหลัก (Lead Investor) ร่วมด้วย MAX Ventures ซึ่งเป็น Corporate Venture Capital (CVC) ในกลุ่ม PTG

นายธีระ กนกกาญจนรัตน์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อรินแคร์ จำกัด
นายธีระ กนกกาญจนรัตน์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อรินแคร์ จำกัด

โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนในรอบ Series B บริษัทจะนำเงินไปใช้ใน 3 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ ยกระดับโครงสร้างของระบบซัพพลายเชน ลงทุนในเทคโนโลยีโดยเฉพาะ Machine Learning (ML) และ Advance Technology ที่นำมาใช้กับร้านขายยา รวมถึงจะมีการนำมาใช้ปรับระบบการควบคุมภายใน (Internal Control) ต่างๆ เพื่อเตรียมตัวในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ภายในปี 2569

“การร่วมมือกับ 2 พันธมิตรยักษ์ใหญ่ถือเป็นการขยายโอกาสการเติบโตของอรินแคร์จากตลาดร้านขายยา 3.5 หมื่นล้านบาท สู่ตลาดยามูลค่า 150,000 ล้านบาท เราคาดว่าจะสามารถทำกำไรได้ภายในปีนี้ โดยปัจจุบันอรินแคร์มีเภสัชกรและร้านขายยาชุมชนบนแพลตฟอร์มมากกว่า 3,000 ราย และตั้งเป้าว่าจะเพิ่มจำนวนอีกเท่าตัวภายในปี 2569” นายธีระกล่าว

ความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่กลุ่ม CHG และ PTG เข้ามาลงทุนนั้น จะมีการเชื่อมโยงเภสัชกรและร้านขายยาชุมชนบนเครือข่ายของอรินแคร์เข้ากับทีมการแพทย์ของ CHG เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการดูแลสุขภาพคนในชุมชนได้อย่างครอบคลุมทั่วประเทศ

พร้อมกันนี้ยังร่วมจับมือกับ MaxCard ของ PTG ซึ่งเป็นเครือข่ายที่เข้าถึงผู้บริโภคคนไทยได้มากที่สุด เสริมแกร่งให้กับเภสัชกรและร้านยาชุมชนที่เป็น SME ท้องถิ่นให้เข้มแข็ง เพิ่มการดูแลและบริการด้านสุขภาพให้กับคนไทยผ่าน MaxCard

ปัจจุบันประเทศไทยมีร้านขายยากว่า 20,000 ร้านทั่วประเทศ โดย 80% เป็น SME และมีเพียง 20% เป็นของแฟรนไชส์หรือผู้ประกอบการรายใหญ่ ในปี 2562 มีมูลค่า 35,000 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 7% แต่มูลค่าตลาดที่เกี่ยวกับเทรนด์สุขภาพเติบโตอย่างมากหลังการระบาดของโควิด-19 และเชื่อว่าจะยังเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 13-17% ในปี 2565 มีมูลค่าราว 40,000 ล้านบาท เพราะคนไทยให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ประกอบกับประเทศไทยได้ก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว ช่องว่างบริการสาธารณสุขไทยจึงเป็นโอกาสของธุรกิจ Health Tech ในประเทศไทย ประกอบกับระบบบริการสาธารณสุขของรัฐฯ ไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ในขณะที่บริการสาธารณสุขของเอกชน คลินิก และโรงพยาบาลกระจุกตัวในเมืองหรือชุมชนขนาดใหญ่ และมาพร้อมค่าบริการที่สูง ร้านขายยาและเภสัชกรชุมชนคือประตูเปิดให้คนเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้ดีขึ้น และเมื่อเกิดการเชื่อมโยงระบบนิเวศเกี่ยวกับบริการสาธารณสุขบนแพลตฟอร์มก็จะช่วยแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ทำให้คนไทยสามารถเข้าถึงระบบสาธารณสุขด้วยเทคโนโลยีได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น

นพ.กำพล พลัสสินทร์ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มโรงพยาบาลจุฬารัตน์ (CHG)
นพ.กำพล พลัสสินทร์ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มโรงพยาบาลจุฬารัตน์ (CHG)

ด้าน นพ.กำพล พลัสสินทร์ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มโรงพยาบาลจุฬารัตน์ (CHG) กล่าวว่า ด้วยแนวคิดและทิศทางธุรกิจของอรินแคร์ที่สอดรับกับวิสัยทัศน์ของทาง CHG ทำให้เล็งเห็นถึงโอกาสของการต่อยอดธุรกิจ ที่มุ่งไปในทิศทางเดียวกัน ในการร่วมสนับสนุนธุรกิจด้านการดูแลสุขภาพให้เข้าถึงในระดับชุมชน ต่อยอดการเติบโตระบบนิเวศของ Health Tech ยกระดับปรับโครงสร้างระบบสาธารณสุข ให้มีผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางมากขึ้น

นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (PTG)
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (PTG)

ขณะที่นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (PTG) เปิดเผยว่า บริษัทได้เข้าลงทุนเชิงกลยุทธ์ในธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพสูง โดยผ่าน MAX Ventures ผูกพันธมิตรทางธุรกิจ สร้างโอกาสเป็น New S-Curve รวมถึงการสร้างความแข็งแกร่งและต่อยอดธุรกิจในเครือข่ายของ PTG

โดยในช่วงแรกจะมีการร่วมกับ MaxCard ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกอยู่กว่า 19 ล้านราย และมีการเติบโตอยู่ที่เดือนละประมาณ 2 แสนราย คาดว่าภายในสิ้นปี 2566 นี้มีสมาชิกไม่น้อยกว่า 21 ล้านราย

และจากการที่พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่เน้นให้ความสำคัญด้านสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดเทรนด์ใหม่ในการมีสุขภาพดีที่ยั่งยืนในยุคดิจิทัล ทำให้ PTG มองเห็นโอกาสแตกไลน์ต่อยอดธุรกิจและบริการ เสริมศักยภาพให้สถานี PT ทั่วประเทศ ที่จากเดิมมุ่งมั่นเป็นมากกว่าสถานีให้บริการน้ำมัน แต่คาดหวังเป็นสถานีบริการที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการรอบด้าน ทั้งร้านค้า และร้านขายยาโดย NEXX Pharma ที่บริการทั้งจำหน่ายยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์การแพทย์ โดยเภสัชกรผู้มีประสบการณ์ วางแผนให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตามการระดมทุนในรอบนี้กลุ่ม CHG ได้เข้ามาถือหุ้นราว 25% ขณะที่กลุ่ม PTG ถือหุ้นราว 10% และบริษัทมีนักลงทุนในการระดมทุนรอบก่อนหน้า ได้แก่ Nexter Ventures ซึ่งเป็น CVC ในเครือ SCG Cement Building Materials บริษัทระดับโลกอย่าง Mitsubishi Corporation รวมถึง True Incube


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์