Bitcoin ร่วงแรง นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง หลังทรัมป์ออกคำสั่งเก็บภาษีนำเข้า

ราคาคริปโตเคอร์เรนซีปรับตัวลดลงอย่างหนักในคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ท่ามกลางภาวะการเทขายสินทรัพย์เสี่ยง หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเก็บภาษีนำเข้าจากแคนาดา เม็กซิโก และจีน ตามที่เคยข่มขู่ไว้

ล่าสุดเมื่อช่วง 9.30 น.ราคา Bitcoin เคลื่อนไหวอยู่ที่  93,768.66 ดอลลาร์ ขณะที่ดัชนี CoinDesk 20 ซึ่งวัดมูลค่าสินทรัพย์ดิจิทัล 20 อันดับแรกตามมูลค่าตลาด ร่วงลงกว่า 17 % ส่วนราคา Ethereum ดิ่งลง 20% แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน

การร่วงลงของตลาดเริ่มขึ้นในคืนวันเสาร์ หลังจากทรัมป์ลงนามคำสั่งเก็บภาษีนำเข้า 25% จากเม็กซิโกและแคนาดา รวมถึงภาษี 10% จากจีน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันอังคาร โดยสหรัฐฯ มีมูลค่าการค้ากับทั้งสามประเทศรวมกันราว 1.6 ล้านล้านดอลลาร์

เจฟฟ์ พาร์ค หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์อัลฟาของ Bitwise Asset Management กล่าวว่า สงครามภาษีที่ยืดเยื้อจะ "ดีมาก" สำหรับ Bitcoin ในระยะยาว เนื่องจากจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์และอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ อ่อนค่าลง

แม้หลายฝ่ายเชื่อว่า Bitcoin เป็นเครื่องป้องกันเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนในระยะยาว แต่ในระยะสั้นมันเคลื่อนไหวเหมือนสินทรัพย์เสี่ยง และมีแนวโน้มที่จะตอบสนองในเชิงลบต่อความไม่แน่นอนใดๆ เกี่ยวกับสงครามการค้าที่เกิดจากการเก็บภาษีของทรัมป์

ทั้งนี้นักลงทุนจับตาระดับแนวรับสำคัญของ Bitcoin ที่ 90,000 ดอลลาร์ และบางรายเตือนว่าอาจเกิดการร่วงลงลึกถึง 80,000 ดอลลาร์ หากคริปโตเคอร์เรนซีนี้หลุดแนวรับอย่างมีนัยสำคัญ

ปัจจุบันราคา Bitcoin ต่ำกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากที่เคยทำได้ที่ 109,350.72 ดอลลาร์ ในเมื่อวันที่ 20 มกราคมอยู่ราว 16% แต่อย่างไรก็ตาม นักลงทุนและเทรดเดอร์ในตลาดคริปโตที่มีประสบการณ์คุ้นเคยกับการปรับฐานประมาณ 30% ในช่วงตลาดขาขึ้น

อ้างอิง TradingView , CoinDesk , CNBC