“ภาษีคาร์บอน”

Sustainability

ESG Strategy

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

“ภาษีคาร์บอน”

Date Time: 25 ม.ค. 2568 06:00 น.

Summary

  • คอลัมน์ Sustainable together สัปดาห์นี้ ขอนำเรื่องแนวทางการจัดเก็บภาษีคาร์บอน มาเล่าสู่ให้ผู้อ่านได้รับทราบข้อมูลอีกครั้ง หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการคลังกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต

Latest

“ฮักโลก” ซื้อสินค้าฉลากสิ่งแวดล้อม หอการค้าไทย จับมือ กลุ่มเซ็นทรัล ชูจุดขายกรีนโปรดักต์

คอลัมน์ Sustainable together สัปดาห์นี้ ขอนำเรื่องแนวทางการจัดเก็บภาษีคาร์บอน มาเล่าสู่ให้ผู้อ่านได้รับทราบข้อมูลอีกครั้ง หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการคลังกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่...) พ.ศ. .... โดยกำหนดหลักเกณฑ์สำหรับกลไกราคาคาร์บอนในพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตที่จัดเก็บจากสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันเป็นอันดับแรก เพราะเป็นกลุ่มที่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุดคิด เป็นสัดส่วน 70% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศ

โดยการจัดเก็บภาษีคาร์บอนจากน้ำมันนั้น จะไม่กระทบประชาชน เนื่องจากการจัดเก็บยังคงเป็นภาษีน้ำมันเดิม เพียงแต่จะแยกประเภทภาษีให้ประชาชนได้รับทราบชัดเจนว่า ในน้ำมัน 1 ลิตร ประกอบด้วยภาษีใดบ้าง เช่น ภาษีสรรพสามิต ภาษีบำรุงท้องถิ่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และภาษีคาร์บอน โดยเบื้องต้นจะมีการกำหนดราคาคาร์บอนที่ 200 บาทต่อตันคาร์บอนเทียบเท่า

ทั้งนี้ เพื่อสร้างความตระหนักให้แก่ผู้บริโภคและผู้ประกอบการ เริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคและผลิตสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพราะการใส่ใจรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เริ่มได้จากตัวเราเองก่อน

อีกทั้งเป็นเครื่องมือที่สร้างโอกาสให้รัฐบาลสามารถเจรจาการค้าระหว่างประเทศที่ให้ความสำคัญต่อการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

การกำหนดหลักเกณฑ์ เพื่อจัดเก็บภาษีคาร์บอนนั้น เป็นไปตามแผนและเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศ ทั้งเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2593 หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ในปี 2608

กระทรวงการคลังให้ความสำคัญในประเด็นดังกล่าวตลอดห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ทั้งกับอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวด ล้อมในภาคขนส่ง และน้ำมันที่เป็นต้นทางของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคพลังงาน ซึ่งทั้งสองภาคส่วนดังกล่าวมีสัดส่วนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงที่สุดหรือประมาณ 70% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศ ดังนั้น การกำหนดกลไกราคาคาร์บอนภาคบังคับมีขึ้นเพื่อสร้างความตระหนักให้ประชาชนในสังคมให้ปรับตัวและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อรองรับกับการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ยังเป็นการเตรียมความพร้อมและการสร้างมาตรฐานสากลให้กับผู้ประกอบการที่จะส่งสินค้าไปยังประเทศที่มีการบังคับใช้มาตรการการปรับคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism : CBAM) ในหลายๆประเทศ ได้เตรียมตัวและสามารถใช้ราคาคาร์บอนนี้ในกรณีที่จะมีการจัดเก็บมูลค่าส่วนต่างราคาคาร์บอนจากสินค้าที่จะนำเข้าไปในประเทศนั้นๆ

“ถึงแม้ประเทศไทยจะเริ่มภาษีคาร์บอนช้ากว่าหลายๆประเทศ แต่ไทยก็ต้องทำ เพราะคำว่าเศรษฐกิจสีเขียว หลายประเทศกำหนดขึ้นมาเพื่อเป็นการกีดกันทางการค้า หากไทยไม่ทำตาม การส่งออกของไทยอาจมีปัญหา และเมื่อทำแล้วอาจเพิ่มการส่งออกได้เช่นกัน และการผลักดันเศรษฐกิจสีเขียว เชื่อว่าเป็นไปตามแนวโน้มโลกที่กำลังดำเนินการ เพราะทุกประเทศให้ความสำคัญต่อการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน” นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าว

โดยขั้นตอนจากนี้ กรมสรรพสามิตจะต้องส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจความถูกต้อง เพื่อนำไปประกาศในราชกิจจา เพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป ซึ่งคาดว่าใช้เวลาไม่นานเกินรอ... หลังจากนั้นคงจะมีสินค้าอื่นๆทยอยปรับโครงสร้างภาษี ให้มีภาษีคาร์บอน เพื่อความยั่งยืนของโลก.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ