เคยได้ยินประโยคนี้กันไหม "รักตัวเอง ไม่เจ็บเลยสักวัน"
ประโยคที่มีพลังในเชิงจิตวิทยาและสะท้อนแนวคิด Self-Love หรือ การให้คุณค่ากับตัวเอง ที่ไม่ใช่แค่ในเชิงความรัก ไม่ต้องเอาใจไปเจ็บ กับความสัมพันธ์ที่สุ่มเสี่ยง รักที่ไม่มั่นคง และอีกฝ่ายพร้อมจะเปลี่ยนไปได้ตลอดเวลา
หากแต่ การรักผิดคน เสียทั้งเงินทั้งเวลา เช่น การทุ่มเงินไปกับความสัมพันธ์ที่ไม่มีอนาคต ร้ายไปจนถึงขึ้น สิ้นเนื้อประดาตัว เพราะถูกหลอกลวง เลิกรา”หย่าร้าง” ไม่เหลือแม้แต่สมบัติติดตัว
ขณะ”คู่ที่ไม่ดี” ยังอาจทำให้ชีวิตเราพังได้ เช่น
บางคู่รักกันมาก แต่ มีปัญหาทางการเงินที่ไปต่อไม่ได้ หรือ บางคู่ “เงิน”ไม่ใช่ปัญหาหลัก แต่ กลับไม่มีความเข้าใจกันเรื่องเป้าหมายทางการเงิน บางคนรักกันดีแต่ สุดท้ายต้องแบกภาระหนักเกินไป จนรักกลายเป็นภาระ
นี่อาจกลายเป็น 1 ในเหตุผล ที่ทำให้ บางที การอยู่คนเดียวอาจเป็นคำตอบที่ปลอดภัยกว่า สำหรับหัวใจและกระเป๋าสตางค์ หรือ เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคนที่เคยผ่านการเลิกราเพราะเรื่องเงิน มักจะให้ความสำคัญกับ "การมีฐานะทางการเงินที่มั่นคงก่อน" มากกว่าการหาใครสักคนมาเติมเต็มชีวิต เพราะพวกเขาเรียนรู้จากความเจ็บปวดมาแล้ว
อย่างไรก็ดี การโสด ที่รักตัวเองอย่างแท้จริง ไม่ใช่การใช้ชีวิตอย่างอิสระเท่านั้น แต่คือ การวางแผนทางเงินที่ดี เพื่อให้เราสามารถดูแลตัวเองได้เต็มที่ ไม่ต้องเผื่อใจหรือเผื่องบประมาณให้ใคร การรักตัวเองในมุมมองทางการเงิน คือการจัดสรรทรัพยากรเพื่อตัวเอง อย่างชาญฉลาด เช่น
เงินที่ดีคืออะไร?
เงินที่ดี ไม่ใช่แค่จำนวนเงินในบัญชี แต่เป็น เงินที่ช่วยให้ชีวิตเรามั่นคงและเติบโต เช่น
ข้อดีของการเป็น “โสด” คือ ไม่มีค่าใช้จ่ายด้านความสัมพันธ์ เช่น ของขวัญวันครบรอบ ค่าดินเนอร์หรู หรือค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาความสัมพันธ์
เรื่อยไปจนถึง การตัดสินใจเรื่องเงินได้อิสระ ไม่มีความขัดแย้งเรื่องเป้าหมายทางการเงินระหว่างคู่ และสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีกว่า ไม่ต้องเผื่อเงินไว้สำหรับครอบครัวของอีกฝ่าย ทำให้เรามีโอกาสลงทุนเพื่ออนาคตได้มากกว่า รายได้ทั้งหมดใช้เพื่อพัฒนาตัวเอง และสร้างสินทรัพย์ที่มั่นคงได้ด้วย
สำหรับ กลยุทธ์ จัดการเงินสไตล์คนโสดนั้น ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แนะนำไว้ 4 กลยุทธ์ ดังนี้
1. จัดสรรค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน ตามสัดส่วนที่เหมาะกับตัวเรา เช่น
-เงินสำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน 50%
-เงินออมและลงทุน 20%
-เงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน 10%
-เงินใช้จ่ายเพื่อความสุข 10%
-เงินเลี้ยงดูพ่อแม่ 10%
พร้อมทั้งจดบันทึกรับจ่ายในแต่ละวัน ซึ่งจะช่วยให้เห็นภาพรวมของรายได้และการใช้จ่าย
2. ทำประกันชีวิตและประกันสุขภาพ เพื่อคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล กรณีเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุฉุกเฉิน ซึ่งนับวันค่าใช้จ่ายก็ยิ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ
3. อย่าสร้างหนี้โดยไม่จำเป็น หากเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ก็ควรเลือกสร้างแต่หนี้ที่ดี เช่น กู้เงินเพื่อซื้อบ้าน หรือเพื่อการศึกษา เพราะช่วยสร้างความมั่นคงให้กับตัวเราเองได้ในอนาคต
4. ลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ปัจจุบันมีให้ทางเลือกลงทุนมากมายและเข้าถึงได้ง่าย เช่น ตัดบัญชีเงินฝากเพื่อลงทุนในกองทุนรวมทุก ๆ เดือน ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกสบาย แถมยังช่วยสร้างวินัยในการลงทุนให้กับเราด้วย
หรือ เราจะสร้างแผนการเงินที่เหมาะกับตัวเอง ก็ได้เช่นกัน เช่น การกำหนดเป้าหมายทางการเงิน อยากมีเงินเก็บ 1 ล้านบาทก่อนอายุ 35 หรือ เกษียณก่อน 50ก็สามารถจัดสรรงบการเงินแบบ 50/30/20 หรือ 70/20/10 (ตามไลฟ์สไตล์)
โฟกัสที่ความมั่นคงระยะยาว เช่นการลงทุนในสินทรัพย์ที่สร้าง Passive Income เช่น หุ้นปันผล กองทุนรวม อสังหาฯ ให้เช่า เป็นต้น
สุดท้าย ถ้าเรามีเงินมากพอ เราจะเลือกได้ว่าจะใช้ชีวิตอย่างไรก็ได้ ไม่ต้องทนอยู่กับคนที่ทำให้เราเป็นทุกข์ และถ้าลงทุนอย่างชาญฉลาด เราก็สามารถมีรายได้โดยไม่ต้องพึ่งพาใครทั้งสิ้น เมื่อความโสดอาจไม่ใช่เรื่องน่ากังวลอีกต่อไป.
ที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
อ่านข่าวหุ้น ข่าวทองคำ และ ข่าวการลงทุน และ การเงิน กับ Thairath Money ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/investment
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney