ระบบพร้อมบิซ หรือ PromptBiz เปิดให้บริการมาตั้งแต่ 29 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา และคาดว่าในช่วงปีหน้าจะมีการเข้าใช้งานที่เข้มข้นขึ้นจากภาคธุรกิจไทย หลังจากต้องยอมรับว่าในโลกของการแข่งขันทางธุรกิจยุคนี้ ผู้ประกอบการเผชิญกับความท้าทายในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี
ส่งผลให้การทำเอกสารข้อมูลแบบเก่าๆ อาจกลายเป็นอุปสรรคในการเติบโตไปข้างหน้า อีกทั้งเสี่ยงเจอกับ กระบวนการที่ผิดพลาด, ระยะเวลายาวนาน และการขอสินเชื่อที่ยุ่งยาก แถมมีค่าใช้จ่ายสูงอีกด้วย
เป็นที่มาให้ สมาคมธนาคารไทย, ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พร้อมด้วยหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาคธุรกิจ ภาคการเงิน และภาครัฐ พัฒนา “PromptBIZ” โครงสร้างพื้นฐานทางการเงินและการชำระเงินกลางในรูปแบบดิจิทัลสำหรับภาคธุรกิจไทยออกมาใช้งาน ซึ่งปัจจุบันมีธนาคารหลายแห่งนำร่องให้บริการลูกค้าแล้ว
เช่น ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารทหารไทยธนชาต และ ธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อสนับสนุนการทำธุรกรรมการค้าและการชำระเงินของธุรกิจในรูปแบบดิจิทัลที่สามารถข้ามธนาคารได้อย่างครบวงจร
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลายๆ คนที่ทำธุรกิจอาจยังไม่รู้ “พร้อมบิซ” ที่ว่านี้ ว่าจะสามารถช่วยยกระดับการทำธุรกิจของเราได้อย่างไร?
ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า ระบบ PromptBIZ เป็นระบบที่เชื่อมโยงข้อมูลการค้าของภาคธุรกิจ ของทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ตั้งแต่ข้อมูลใบแจ้งหนี้ การชำระเงิน การออกใบเสร็จ ที่มีความปลอดภัยสอดคล้องกับมาตรฐานสากล โดยไม่จำเป็นต้องใช้บริการผ่านธนาคารเดียวกัน
ซึ่งจะเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำธุรกิจ ทั้งสะดวกรวดเร็ว ตรวจสอบธุรกรรมได้ง่าย ลดความเสี่ยงและข้อผิดพลาด และลดต้นทุนดำเนินงาน นอกจากนี้ SMEs สามารถใช้ข้อมูลในระบบนำไปประกอบการขอสินเชื่อธุรกิจ เพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้นด้วย
อธิบายให้เห็นภาพ เทียบการวางบิล กระบวนการเดิมๆ ที่ผู้ขายออกเอกสารวางบิลแบบกระดาษ ก่อนส่งใบแจ้งหนี้และสินค้า เพื่อให้ผู้ซื้อรับเอกสารวางบิลแบบกระดาษ กระบวนการนี้
ขณะการวางบิลผ่าน PromptBIZ จะทำให้ผู้ขายส่งข้อมูลวางบิลให้กับผู้ซื้อได้ทันที
หรือ การชำระเงินและการออกใบเสร็จ ผ่านระบบ PromptBIZ ก็ลดความยุ่งยากไปได้เยอะเช่นกัน
อ้างอิงกระบวนการเดิมที่ผู้ซื้อและผู้ขายจะมีต้นทุนกาารชำระเงิน เช่น ค่าเช็ค/ค่าจัดทำและส่งใบเสร็จรับเงิน ขณะเดียวกัน ผู้ขายต้องใช้เวลาตรวจสอบข้อมูล ทำให้การออกใบเสร็จรับเงินได้ช้า
แต่หากใช้งาน พร้อมบิซ ผู้ขายได้รับข้อมูลชำระเงินที่มีข้อมูลการค้าผ่านระบบ PromptBIZ ทำให้ผู้ขายตรวจสอบข้อมูลได้รวดเร็ว และออกใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ส่งผู้ซื้อได้ทันที อีกทั้งลดค่าใช้จ่ายการออกและส่งใบเสร็จรับเงินได้ทันที นี่คือตัวอย่างประโยชน์เบื้องต้นของระบบ PromptBiz
ผู้ประกอบธุรกิจที่สนใจใช้บริการระบบ PromptBiz จะมีกระบวนการ และค่าใช้จ่ายในการปรับระบบอย่างไรบ้างนั้น ข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า วิธีการเตรียมตัว หรือสมัครใช้บริการระบบ PromptBiz ผู้ประกอบธุรกิจสามารถใช้บริการได้ผ่านหลายช่องทางตามความเหมาะสมของธุรกิจ โดยใช้งานผ่าน web portal ของธนาคาร หรือใช้ซอฟต์แวร์/ERP เป็นเครื่องมือในการจัดทำและรับ-ส่งข้อมูล การค้า การชำระเงินในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับค่าใช้จ่ายในการปรับระบบขึ้นกับขนาดของกิจการ โดยมีธนาคารผู้ให้บริการคอยให้ความช่วยเหลือดูแลอย่างใกล้ชิด
ในระยะแรก ตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค. ที่ผ่านมา มีธนาคารผู้ให้บริการนำร่อง 5 แห่ง ได้แก่ KTB, BBL, BAY, KBANK และ TTB โดยผู้ประกอบธุรกิจสามารถเลือกใช้บริการแบบต่างธนาคารได้ในแต่ละบริการ
ขณะ ประมาณไตรมาส 2 ปี 2567 จะมี SCB เป็นผู้ให้บริการเพิ่มเติม รวมทั้งธนาคารอื่นๆ และ non-bank ทยอยเข้าเป็นผู้ให้บริการในระยะถัดไป
โดยผู้ประกอบการที่สนใจ สามารถติดต่อได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าธุรกิจและเจ้าหน้าที่ลูกค้าสัมพันธ์ (Relationship Manager) ของธนาคารนำร่อง หรือธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โทร. 1213 เพื่อขอคำแนะนำในการปรับระบบงานสำหรับการทำธุรกรรมในรูปแบบดิจิทัลต่อไป
ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย, สมาคมธนาคารไทย
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่