เทศกาลสงกรานต์ 4 แบงก์ยักษ์ เชิญคนไทยสาดน้ำให้ฉ่ำใจ เตรียมเงินใส่ตู้เอทีเอ็มและสำนักงานสาขาให้เบิกถอนใช้จ่ายซื้อสินค้า ของฝาก อาหาร เติมน้ำมัน ท่องเที่ยว และเดินทางกลับภูมิลำเนา รวม 1.28 แสนล้านบาท กรุงไทยชี้นักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่ม GIFT+ หนุนท่องเที่ยวไทยปี 2566–2567 โตต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเทศกาลสงกรานต์และวันหยุดชดเชย วันที่ 13-17 เม.ย. ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 4 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด ธนาคารกรุงไทย จำกัด ธนาคารกสิกรไทย จำกัด ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด ได้สำรองเงินสดใส่ตู้เอทีเอ็ม และสาขา รวม 128,810 ล้านบาท เพื่อรองรับการจับจ่ายใช้สอยเดินทางท่องเที่ยว และกลับภูมิลำเนาของประชาชน โดยธนาคารกรุงเทพจัดสรรเงินสดสำรองให้บริการลูกค้า เพิ่มอีก 40,000 ล้านบาท ผ่านสาขาธนาคาร และตู้เอทีเอ็ม 10,000 จุดทั่วประเทศ พร้อมแผนดูแลการเติมเงินสดในตู้เอทีเอ็มถี่เป็นพิเศษ เพื่อรองรับความต้องการเงินสดของประชาชน เพื่อการจับจ่ายซื้อสินค้า ของฝาก อาหาร และเครื่องดื่ม
“ธนาคารกรุงไทยเตรียมสำรองเงินสด เพื่อรองรับการใช้จ่ายของลูกค้าและประชาชน จำนวน 21,710 ล้านบาท แบ่งเป็นการสำรองในเขตกรุงเทพฯ 3,060 ล้านบาท และเขตภูมิภาค 18,650 ล้านบาท โดยสำรองสำหรับสาขาและจุดบริการทั่วประเทศ 2,330 ล้านบาท สำรองสำหรับเครื่อง ATM รวม 19,380 ล้านบาท, ธนาคารกสิกรไทย สำรองเงินสด ในสาขาและเครื่องเอทีเอ็มรวม 29,600 ล้านบาท ในจำนวนนี้ แบ่งเป็นการสำรองเงินสดผ่านช่องทางสาขา 8,800 ล้านบาท สำรองเงินสดเพื่อเครื่องเอทีเอ็ม (K-ATM) ที่มีอยู่ 9,000 เครื่องทั่วประเทศรวม 20,800 ล้านบาท”
สำหรับธนาคารไทยพาณิชย์สำรองเงินสดรวม 37,500 ล้านบาท เป็นในกรุงเทพฯ 10,675 ล้านบาท และในต่างจังหวัด 26,825 ล้านบาท แบ่งเป็นการสำรองเงินผ่านเครื่องเอทีเอ็ม 31,000 ล้านบาท และสาขา 6,500 ล้านบาท เป็นการสำรองเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 10% รองรับการใช้จ่ายของประชาชน จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
นายสมบูรณ์ จิตเป็นธม ผู้ช่วยผู้ว่าการสายออกบัตรธนาคาร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า เทศกาลสงกรานต์พบว่า ความต้องการใช้ธนบัตรของประชาชนอยู่ในเกณฑ์สูงกว่าปกติ จึงได้เตรียมสำรองธนบัตรชนิดราคาต่างๆ เพื่อรองรับความต้องการไว้อย่างเพียงพอ โดยประมาณการว่าธนาคารพาณิชย์ จะเบิกจ่ายธนบัตรจาก ธปท.ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ ก่อนเทศกาลสงกรานต์ เป็นมูลค่า 25,000 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการในปี 2565 ที่
อยู่ที่ 67%
นายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2566-2567 จะฟื้นตัวต่อเนื่องจาก 11.2 ล้านคนในปี 2565 มาอยู่ที่ 27.1 ล้านคน และ 36.6 ล้านคน ตามลำดับ ใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิด-19 ที่ 39.9 ล้านคน ได้ในช่วงปี 2567 โดยนักท่องเที่ยว GIFT+ ที่ประกอบด้วย 1.ประเทศแถบตะวันออก กลาง (Gulf) ที่มีค่าใช้จ่ายต่อหัวสูงกว่านักท่องเที่ยวโดยรวมถึง 70-125% 2.อินเดีย (India) ที่จำนวนประชากรกำลังจะขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของโลก 3.ประเทศแถบเอเชียตะวันออก (Far easT+) คือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน และรัสเซีย เป็นกลุ่มที่น่าจับตา เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพด้านการใช้จ่าย และบางส่วนยังเป็นตลาดใหม่ ที่มีโอกาสเติบโตได้อีกมากคาดว่านักท่องเที่ยวกลุ่ม GIFT+ ที่เดินทางเข้าไทยในปี 2566-2567 จะมี 12.2 และ 18.5 ล้านคน ตามลำดับ.