ทุนสำรองไทยสูงเป็นอันดับที่ 12 ของโลก ถือว่าอยู่ในระดับมั่นคง

Personal Finance

Banking & Bond

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

ทุนสำรองไทยสูงเป็นอันดับที่ 12 ของโลก ถือว่าอยู่ในระดับมั่นคง

Date Time: 7 ธ.ค. 2564 05:40 น.

Summary

  • ฐานะการเงินของไทยว่า ยังคงแข็งแกร่ง โดยข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย ณ เดือน ต.ค.64 ระบุว่า ทุนสำรองระหว่างประเทศรวม (gross reserves) อยู่ที่ 246,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 8.17 ล้านล้านบาท

Latest

ชัชวาลย์ เจียรวนนท์ ส่ง Lightnet จับมือ WeLab ฟินเทคฮ่องกง ลงสนามชิงใบอนุญาตฯ Virtual Bank

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงฐานะการเงินของไทยว่า ยังคงแข็งแกร่ง โดยข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย ณ เดือน ต.ค.64 ระบุว่า ทุนสำรองระหว่างประเทศรวม (gross reserves) อยู่ที่ 246,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 8.17 ล้านล้านบาท สูงเป็นอันดับที่ 12 ของโลก ถือว่าอยู่ในระดับมั่นคง โดยคิดเป็นประมาณ 3 เท่าของหนี้ต่างประเทศระยะสั้น ทั้งนี้ ยังคงประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนื้ ขยายตัว 1.2% ตามคาดการณ์ ส่วนในปี 65 จะขยายตัว 3.5-4.5% ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ยังคงอยู่และปรับตัวดีขึ้น

สำหรับทุนสำรองระหว่างประเทศ มีบทบาทสำคัญในการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ เป็นกันชนให้ระบบเศรษฐกิจไทยในการรองรับความผันผวนของเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศ เพื่อรักษาค่าเงินบาทไม่ให้ผันผวน จนกระทบต่อการนำเข้า-ส่งออกและราคาสินค้า รวมทั้งยังเป็นเครื่องชี้วัดสำคัญที่ต่างชาติใช้ประเมินความมั่นคงและเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินของไทย “นายกรัฐมนตรีดำเนินนโยบายส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่กับการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเน้นเปิดประเทศแบบปลอดภัย ฟื้นฟูท่องเที่ยว รวมทั้งการใช้จ่ายภาครัฐผ่านเม็ดเงินลงทุนกว่า 1 ล้านล้านบาทสำหรับโครงสร้างพื้นฐานและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเม็ดเงินที่เหลือจาก พ.ร.ก.กู้เงินฯอีก 300,000 ล้านบาท เพื่อเยียวยาประชาชน ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนในการจ้างงาน และฟื้นฟูธุรกิจ”

ด้านนายศรชัย สุเนต์ตา ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารฝ่าย SCB Chief Investment Office (SCB CIO) กล่าวว่า ตลาดการลงทุนใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า ยังมีแนวโน้มได้รับแรงกดดันจากโอมิครอน ดังนั้น เมื่อตลาดปรับฐาน ควรหาโอกาสลงทุนในกลุ่มการแพทย์ (healthcare) โดยเฉพาะหุ้น หรือกองทุนที่ลงทุนในบริษัทวัคซีน และยา หรือในกลุ่มที่ได้อานิสงส์จากการทำงานที่บ้าน เช่น หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และหุ้นหรือกองทุนในตลาดจีนที่มีความเสี่ยงเรื่องโควิดน้อยกว่าประเทศอื่น “การลงทุนที่ควรหลีกเลี่ยงช่วงนี้ คือ กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการเปิดประเทศ เช่น ท่องเที่ยว โรงแรม อสังหาริมทรัพย์, หุ้นหรือกองทุนที่ลงทุนในประเทศที่เศรษฐกิจพึ่งพาการท่องเที่ยวมาก เช่น หุ้นไทย, หุ้นหรือกองทุนที่ลงทุนในอินเดีย ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์ใหม่, หุ้นหรือกองทุนที่ลงทุนในน้ำมัน เพราะอุปสงค์และอุปทานมีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของภาวะเศรษฐกิจ”.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ