นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบในยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับในปีภาษี 2563 จากกรณีของผู้มีเงินได้ที่ได้รับจากเงินสนับสนุนหรือได้รับประโยชน์จาก 4 มาตรการ หรือ โครงการที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ได้แก่ 1. มาตรการชดเชยรายได้แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบหรือผู้ได้รับผลกระทบอื่นๆ ของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) 2.โครงการเราเที่ยวด้วยกัน 3.โครงการกำลังใจ และ 4.โครงการคนละครึ่ง
โดยหลังจากนี้กระทรวงการคลังจะได้ออกร่างกฎกระทรวง ฉบับที่... (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร เพื่อยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ตามมติ ครม.ดังกล่าวต่อไป ซึ่งทำให้ชัดเจนแล้วว่าประชาชนไม่ต้องเสียภาษี
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ได้มีการประมาณการสูญเสียรายได้ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากเงินสนับสนุนและประโยชน์ที่ได้รับจากมาตรการชดเชยรายได้
แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบหรือผู้ที่ได้รับผลกระทบอื่นๆ ของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โครงการเราเที่ยวด้วยกัน โครงการกำลังใจ และโครงการคนละครึ่งดังกล่าว โดยหากไม่กำหนดให้ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา รัฐจะสามารถจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากกรณีนี้ประมาณ 30,360 ล้านบาท.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง