ได้เวลาลงทุนลดหย่อนภาษี ประหยัดเงินได้ถึง 1 ล้านบาท

เหลือเวลาอีก 2 สัปดาห์ จะสิ้นสุดปีภาษี 2563 แล้ว ใครมีรายได้ ประจำ แต่ยังไม่ได้ลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษี ตามสิทธิพึงมีพึงได้ คงต้องไปคำนวณเร่งด่วน สัปดาห์นี้ถือเป็นโอกาสดีในการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีเงินได้ช่วงปลายปี และการลงทุนในช่วงนี้ถือเป็น ช่วงพีกของปีนี้เลยทีเดียว ดัชนีหุ้นที่เคยหงอยเพราะโควิด–19 วันนี้พุ่งปรี๊ดกลับมาชนเพดาน 1,500 ที่นักวิเคราะห์ประเมินกันแล้ว สารพัดกองทุนหุ้นที่เคยขาดทุนเพราะโควิด–19 วันนี้กลับมาเกือบหมดแล้ว ถ้ากลางปีหน้าคนไทยได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด–19 สถานการณ์เศรษฐกิจดีขึ้นเรื่อยๆ โอกาสจะซื้อของถูกก็จะน้อยลงไป

การวางแผนภาษี และ การลงทุนเพื่อออมในระยะยาว ถือเป็นเรื่องสำคัญของชีวิตของแต่ละคน ถ้ามีการวางแผนที่ดี สามารถประหยัดภาษีได้ปีละเป็นล้านบาทเลยทีเดียว ปีนี้ยังมี โครงการชิมช้อปใช้ มาให้หักภาษีเพิ่มปลายปีอีก 30,000 บาทด้วย

ปกติ บุคคลธรรมดา จะได้รับการลดหย่อนภาษีเป็น ค่าใช้จ่ายส่วนตัวไม่เกิน 50% ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี แล้วยังได้ ลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท ลดหย่อนให้คู่สมรส 60,000 บาท ลดหย่อนค่าเลี้ยงดูบิดามารดา 60,000 บาท ฯลฯ แต่การลดหย่อนภาษีที่สำคัญอีกส่วนหนึ่งที่ทุกคนไม่ควรพลาดก็คือ การลดหย่อนภาษีเงินที่ใช้ออมและลงทุน เช่น การลงทุนในกองทุนรวม RMF/SSF ลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท และ การลดหย่อนภาษีในกลุ่มประกัน เช่น ประกันชีวิต ไม่เกิน 100,000 บาท ประกันสุขภาพ ไม่เกิน 15,000 บาท เบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดา ก็ยังลดหย่อนได้อีก 15,000 บาท รวมเบ็ดเสร็จแล้ว แต่ละคนสามารถลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีได้สูงสุดกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยประหยัดเงินภาษีได้มากเลยทีเดียว

การที่รัฐบาลให้ลดหย่อนภาษีมากขนาดนี้ ก็เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีเงินออมในระยะยาว จะได้ รวยก่อนแก่ ไม่ใช่แก่ก่อนรวย มีเงินใช้ในยามเกษียณ คนไทยวันนี้มีอายุยืนยาวขึ้นเฉลี่ย 70-80 ปี ถ้าแก่แล้วไม่มีเงินใช้ก็จะลำบากทั้งตัวเอง ครอบครัว และรัฐบาล

ที่ผมบอกว่า ได้เวลาลงทุนลดหย่อนภาษี และ ช่วงนี้เป็นโอกาสดีที่จะลงทุน เพราะวันที่ 17–20 ธันวาคม นี้ จะมี งานมหกรรมการเงินส่งท้ายปี 2563 Money Expo Year End 2020 ที่ศูนย์แสดงนิทรรศการไบเทคบางนา เริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป จัดโดย วารสาร “การเงินธนาคาร” ภายใต้แนวคิด Wealth Being ความมั่งคั่งในรูปแบบใหม่ มี คุณอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงาน ภายในงานมีธนาคารและสถาบันการเงินไปให้บริการทางการเงินและการลงทุนกว่า 60 แห่ง เพื่อคนกรุงเทพฯตะวันออกและปริมณฑลโดยเฉพาะ ให้ได้รับบริการทางการเงินและการลงทุนที่สะดวกสบายแบบ One Stop Services อย่างทั่วถึง

ภายในงาน 4 วัน จะมีบริการทางการเงินการลงทุนครบวงจร ตั้งแต่ สินเชื่อบุคคล สินเชื่อบ้าน สินเชื่อเอสเอ็มอี สินเชื่อสตาร์ตอัพ สินเชื่อยานยนต์ การลงทุนในกองทุนรวม หุ้นทอง ประกันชีวิต ประกันภัย ประกันสุขภาพ บัตรเครดิต เงินฝาก สลากออมทรัพย์ ไปจนถึง ดิจิทัล แบงกิ้ง ทุกรูปแบบตามไลฟ์สไตล์ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงวัย

ตัวอย่างโปรโมชันพิเศษในงาน เช่น สินเชื่อบ้านดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 107 วัน ดอกเบี้ย 3% ไม่เสียภาษี สินเชื่อเอสเอ็มอี ดอกเบี้ย 3.99% สินเชื่อเอสเอ็มอีสตาร์ตอัพ ดอกเบี้ยปีแรก 1.07% สินเชื่อบุคคล ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0% ทรัพย์ NPA ขายลดราคาสูงสุด 80% ซื้อประกันชีวิต รับทองคำแท่งหนัก 9 บาท หรือ iPhone 12 Pro Max ลงทุน RMF/SSF ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 1 ล้านบาท เป็นต้น

เป็นเรื่องดีๆที่เก็บมาเล่าสู่กันฟัง ช่วงนี้ถือเป็นโอกาสลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษี ใครไม่เชื่อลองเอาแบบภาษีเงินได้มาคำนวณดู ประหยัดภาษีได้อย่างทันตาเห็นเลยทีเดียว.

“ลม เปลี่ยนทิศ”