นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการดูแลเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก ช่วยให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวมีรายได้ที่มั่นคง ธ.ก.ส.จึงได้จัดทำโครงการให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุน 2 โครงการ วงเงิน 30,000 ล้านบาท ให้กับชาวนาคือ 1.สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2563/64 เพื่อให้เกษตรกรมีเงินทุน หมุนเวียนระหว่างชะลอการขายข้าว ไม่ต้องเร่งขายในช่วงที่ราคาตกต่ำ มีเป้าหมายการจ่ายสินเชื่อ 1.5 ล้านตันข้าวเปลือก 2.สินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 2563/64 วงเงินรวม 15,000 ล้านบาท ดอกเบี้ย 1% ต่อปี เกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรที่สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ ธ.ก.ส.ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือโทร.0-2555-0555
นายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการ ธ.ก.ส.กล่าวว่า คาดว่าราคาสินค้าเกษตรเดือน ธ.ค.มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ความชื้นไม่เกิน 14.5% ราคาอยู่ที่ 7.64-7.66 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 0.50% เนื่องจากผลผลิตลดลง ในช่วงปลายฤดูเก็บเกี่ยว, กุ้งขาวแวนนาไม ราคา 136.25-137 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 0.74% สุกร ราคา 76.65- 76.70 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 1.66% เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ มาตรการคนละครึ่ง รวมทั้งยังมีความต้องการในการบริโภคเพิ่มขึ้น ในช่วงเทศกาลการท่องเที่ยวตาม มาตรการวันหยุด และกำลังจะเข้าสู่เทศกาลปีใหม่
“สินค้าที่ราคาปรับตัวลดลง เช่น ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% ราคา 7,959 - 8,024 บาท/ตัน ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 3.97% ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคา 9,103-9,346 บาท/ตัน ลดลง 11.48% ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว ราคา 9,839-9,952 บาท/ตัน ลดลง 3.14% เนื่องจากอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปี ผลผลิตปีนี้คาดว่าจะสูงกว่าปีที่ผ่านมา และโรงสีบางแห่งประสบปัญหาขาดสภาพคล่องหรือขาดทุน ทำให้ชะลอหรือหยุดการรับซื้อข้าวจากชาวนา และเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ความสามารถในการแข่งขันราคาส่งออกข้าวไทยลดลง”.