ธ.ก.ส. เปิดโครงการสินเชื่อชะลอขายข้าวเปลือก ฟรีดอกเบี้ย 5 เดือน และสินเชื่อรวบรวมข้าวโดยสถาบันเกษตรกร อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในการเก็บรักษาข้าวเปลือก และรักษาเสถียรภาพด้านราคาข้าวไม่ให้ตกต่ำในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก
เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.63 นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า หลังจากมีมติ ครม.เห็นชอบให้มี ธ.ก.ส.สนับสนุนการจ่ายเงินในโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว และโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเพื่อลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2563/64 กับกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปแล้วนั้น
ล่าสุด รัฐบาลได้มอบหมายให้ ธ.ก.ส.ดำเนินโครงการภายใต้มาตรการคู่ขนานเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุน จำนวน 2 โครงการ ประกอบด้วย
1. โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2563/64 เพื่อให้เกษตรกรมีเงินทุนหมุนเวียนระหว่างชะลอการขายข้าว ไม่ต้องเร่งขายในช่วงที่ราคาตกต่ำ
โดยมีเป้าหมายการจ่ายสินเชื่อจำนวน 1.5 ล้านตันข้าวเปลือก ณ ความชื้นไม่เกินร้อยละ 15 สิ่งเจือปนไม่เกิน 2% ซึ่งข้าวเปลือกชนิดสีได้ต้นข้าวต่ำกว่า 20 กรัม ไม่รับเข้าร่วมโครงการ และข้าวหอมมะลิจะมีเมล็ดข้าวแดงได้ไม่เกินร้อยละ 0.5 (ไม่เกิน 22 เมล็ดใน 100 กรัม) กำหนดวงเงินสินเชื่อต่อตันรวมเป็นเงิน 15,284 ล้านบาท ดังนี้
- ข้าวเปลือกหอมมะลิในเขต 23 จังหวัด ตั้งแต่ 10,400-11,000 บาทต่อตัน
- ข้าวหอมมะลินอกเขต 23 จังหวัด ตั้งแต่ 8,900-9,500 บาทต่อตัน
- ข้าวเจ้า 5,400 บาทต่อตัน
- ข้าวหอมปทุม 7,300 บาทต่อตัน
- ข้าวเหนียว 8,600 บาทต่อตัน
โดยเกษตรกรกู้ได้รายละไม่เกิน 300,000 บาท สหกรณ์การเกษตรแห่งละไม่เกิน 300 ล้านบาท กลุ่มเกษตรกรแห่งละไม่เกิน 20 ล้านบาท และวิสาหกิจชุมชนแห่งละไม่เกิน 5 ล้านบาท เริ่มตั้งแต่วันนี้-28 ก.พ.64 และภาคใต้ตั้งแต่เดือนมี.ค.- 31 ต.ค. 64 กำหนดชำระคืนเงินกู้ภายใน 5 เดือนนับถัดจากเดือนที่รับเงินกู้ โดยไม่มีอัตราดอกเบี้ย
2. โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 2563/64 เพื่อช่วยให้สถาบันเกษตรกรเข้ามามีบทบาทในการช่วยดูดซับปริมาณข้าวเปลือกในตลาด โดยรวบรวมและรับซื้อข้าวจากสมาชิกและเกษตรกรทั่วไปนำมาเก็บรักษาตามเกณฑ์มาตรฐาน
ทั้งนี้ เพื่อรอการขายหรือนำมาแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม วงเงินรวม 15,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี โดยสถาบันเกษตรกรจะได้รับวงเงินกู้ตามศักยภาพ แผนธุรกิจ และไม่เกินวงเงินที่นายทะเบียนกำหนด ระยะเวลาตั้งแต่วันนี้ถึง 30 ก.ย.64 กำหนดระยะเวลาชำระหนี้เงินกู้ตามรอบธุรกิจแต่ไม่เกิน 31 ธ.ค. 64 ซึ่งเกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธ.ก.ส.ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือโทร. Call Center 0-2555-0555.