นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการออมสิน เปิดเผยว่า ในต้นปี 2564 ธนาคารจะเปิดตัวโครงการปล่อยสินเชื่อผ่านโมบาย แบงกิ้ง (Mobile banking) เพื่อสู้กับหนี้นอกระบบและสถาบันการเงินรายย่อย (Micro finance) ภายใต้แพลตฟอร์ม MYMO ที่ปัจจุบันมีผู้สมัครใช้แอปพลิเคชันดังกล่าวรวม 8 ล้านราย
“ช่วง 5 ปีที่ผ่านมาแอปฯ MYMO ทำได้เพียงตรวจสอบธุรกรรมการเงินเข้าออกเท่านั้น ยังไม่มีธุรกรรมการให้กู้เงิน ล่าสุดธนาคารกำลังพัฒนาระบบ ที่คาดว่า 6 เดือนข้างหน้าจะแล้วเสร็จ นำมาให้บริการในส่วนของการกู้เงินได้”
สำหรับการให้กู้ผ่านแอป MYMO อาจเป็นครั้งแรกในระบบธนาคารที่จะมีการให้กู้ผ่านโมบาย แบงกิ้ง โดยที่ผู้กู้ไม่จำเป็นต้องไปที่สาขาอีกต่อไป เพราะได้มีการยืนยันตัวตน (KYC) สิ้นสุดบนโทรศัพท์มือถือได้ทันที และธนาคารจะเชื่อมโยงข้อมูลจากหน่วยงานอื่นๆ รวมถึงการซื้อข้อมูลจากธนาคารอื่นๆ เพื่อประกอบการพิจารณาอนุมัติเงินกู้ เมื่อธนาคารอนุมัติวงเงินกู้แล้ว การลงนามในสัญญาจะเป็นลักษณะสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ (e-Contract)
ขณะเดียวกันลักษณะเงินกู้ผ่าน MYMO เป็นการออกแบบให้สอดคล้องกับวิถีของลูกค้ารายย่อยและพ่อค้าแม่ค้าในตลาด โดย MYMO ที่ให้วงเงินสินเชื่อ 10,000-20,000 บาท อัตราดอกเบี้ยสามารถคิดเป็นรายวันได้ เช่น กู้วันนี้ คืนในพรุ่งนี้ ก็คิดดอกเบี้ยเป็นรายวัน เป็นต้น และธนาคารจะจ้างพนักงานที่เกษียณแล้วมาเป็นคนเดินเก็บเงินในตลาดสดโดยคิดค่าทำธุรกรรมครั้งละ 3 บาท รูปแบบเช่นนี้สอดคล้องกับวิถีพ่อค้าแม่ค้าที่ต้องการจ่ายดอกเบี้ยเป็นรายวัน และในระยะยาวสามารถเพิ่มวงเงินกู้เป็น 50,000 บาทต่อราย
“ดอกเบี้ยของธนาคาร เพื่อเงินกู้ผ่าน MYMO มีอัตราที่ต่ำกว่าสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ คือผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดที่อยู่ภายใต้การกำกับของกระทรวงการคลัง และสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพ (นาโน ไฟแนนซ์) ที่คิดดอกเบี้ย 33% และต่ำกว่าอัตราเงินกู้ดอกเบี้ยนอกระบบ และอาจใกล้เคียงกับดอกเบี้ยธนาคารประชาชนของออมสินที่อยู่ในระดับ 12%”.