“คลัง” อัดฉีดแสนล้านพร้อมอุ้ม กรุงไทยจี้ลูกหนี้ 80,000 ราย

Personal Finance

Banking & Bond

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

“คลัง” อัดฉีดแสนล้านพร้อมอุ้ม กรุงไทยจี้ลูกหนี้ 80,000 ราย

Date Time: 21 ต.ค. 2563 07:51 น.

Summary

  • แนวทางการให้ความช่วยเหลือสภาพคล่องให้กับภาคธุรกิจซึ่งปัญหาใหญ่และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีความชัดเจนว่าจะไม่ต่ออายุมาตรการพักชำระหนี้ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 22 ต.ค.2563

Latest

ปลดล็อกเรื่องภาษี!

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ได้รายงานที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือสภาพคล่องให้กับภาคธุรกิจซึ่งปัญหาใหญ่และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีความชัดเจนว่าจะไม่ต่ออายุมาตรการพักชำระหนี้ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 22 ต.ค.2563 แต่ก็ไม่ได้นิ่งเฉย ทาง ธปท.ได้ประสานกับธนาคารพาณิชย์จำแนกกลุ่มลูกค้าให้ดูเป็นกลุ่มๆเพื่อเข้าไปดูแล แบ่งออกเป็น 1.กลุ่มที่สามารถกลับมาดำเนินการธุรกิจตามปกตินั่นคือกลุ่มที่เป็นกลุ่มสีเขียวหรือสีเขียวอ่อน 60% 2.กลุ่มลูกหนี้ที่กลับมาดำเนินธุรกิจแต่ยังไม่ฟื้นตัวดีมีอยู่ราว 30 -40% 3.กลุ่มลูกหนี้ที่ยังไม่สามารถกลับมาชำระหนี้ได้ 4% และ 4.ลูกหนี้ที่ขาดการติดต่อกับสถาบันการเงินในระบบมีอยู่ประมาณ 6%

“กลุ่มที่ต้องเข้าไปดูแลช่วยเหลือคือกลุ่มที่ 3 และ 4 จะต้องดึงขึ้นมา และให้เวลาเข้ามาร่วมมาตรการมีวงเงินรวมประมาณ 100,000 ล้านบาท ยืดหนี้ พักหนี้ หรือปรับโครงสร้างหนี้จะพยายามให้มีความชัดเจนในสัปดาห์นี้” ทั้งนี้ ลูกหนี้ทั้งระบบมี 12 ล้านบัญชี รวมวงเงิน 5.5 ล้านล้านบาท อยู่ในระบบสถาบันการเงินของรัฐ 4 ล้านบัญชี รวมวงเงิน 1.9 ล้านล้านบาท

ด้านนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทยจำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มาตรการพักชำระหนี้ที่สมัครใจเข้าโครงการมีทั้งสิ้น 1.05 ล้านบัญชี คิดเป็นยอดหนี้ 1.35 ล้านล้านบาท ข้อมูลจาก ธปท.พบว่าลูกหนี้ที่เข้าข่ายเข้าโครงการแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มที่สามารถกลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติ หลังหมดมาตรการคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 60% กว่าของยอดหนี้ที่เข้าข่ายเข้าร่วมโครงการ 2.กลุ่มที่สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจแต่ยังไม่ฟื้นตัว 20% ให้สถาบันการเงินปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามความสามารถในการชำระหนี้ 3.กลุ่มที่ยังไม่สามารถกลับมาชำระหนี้ได้ 10% ให้สถาบันการเงินขยายเวลาชำระหนี้เป็นรายๆ ได้อีกไม่เกิน 6 เดือนนับจากสิ้นปีนี้

สำหรับกลุ่มที่ 4.เป็นกลุ่มที่ขาดการติดต่อกับสถาบันการเงินคาดว่ามีประมาณ 6% คิดเป็นลูกหนี้ 80,000 ราย ซึ่งสถาบันการเงินจะพยายามติดตามลูกหนี้กลับเข้ามาสู่ระบบให้ได้มากที่สุด หากสุดท้ายไม่สามารถติดต่อได้จะพิจารณาอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปโดยตอนนี้สถาบันการเงินพยายามออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ทั้งลดดอกเบี้ย ลดค่างวดบางส่วน โดยจะพิจารณาสถานะลูกหนี้เป็นรายๆไป นายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่ากลุ่มลูกหนี้ที่ยังไม่สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจแต่ยังไม่ฟื้นตัว และยังไม่สามารถกลับมาชำระหนี้ได้ ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มท่องเที่ยว บริการ ซึ่งเชื่อว่า สถาบันการเงินจะพิจารณาความช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ