พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้จัดตั้งกองทุนส่งเสริมการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน ขึ้นเป็นกองทุนหมุนเวียน ที่จะมีผลบังคับใช้เมื่อร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน พ.ศ. ... ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีผลบังคับใช้แล้ว โดยเป็นไปตามที่คณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน กระทรวงการคลัง เสนอ ซึ่งการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน เป็นการนำเอากองทุนเดิมที่เป็นกลไกของ พ.ร.บ.ให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556 ที่กำหนดให้กองทุนนี้เป็นกลไกสนับสนุนการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐาน และการบริการสาธารณะ ที่เปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (พีพีพี)
“การจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน ซึ่งกำหนดไว้ในร่าง พ.ร.บ.ฉบับใหม่ได้ขยายขอบเขตโครงการพีพีพีให้ครอบคลุมกิจการเพื่อสังคม ที่อาจมีผลตอบแทนไม่สูง อาจไม่ดึงดูดการลงทุนของภาคเอกชน แต่เป็นโครงการที่ต้องสนับสนุนให้เกิดการลงทุน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและสังคมในภาพรวมให้กิจการประเภทนี้อยู่ในขอบข่ายที่กองทุนส่งเสริมการลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน จะเข้าไปสนับสนุนได้ ทั้งนี้ ยังไม่ได้มีการกำหนดขนาดของกองทุน”.