จับตา 8 บิ๊ก บจ. มีโอกาส “ซื้อหุ้นคืน” หลัง TTB นำร่องตั้งงบ 2.1 หมื่นล้าน หวังสร้างมูลค่าเพิ่ม

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

จับตา 8 บิ๊ก บจ. มีโอกาส “ซื้อหุ้นคืน” หลัง TTB นำร่องตั้งงบ 2.1 หมื่นล้าน หวังสร้างมูลค่าเพิ่ม

Date Time: 29 ม.ค. 2568 12:38 น.

Video

ลายเส้นสะท้อนตัวตนเบียร์ “The Brewing Project“ | BrandStory Special EP x เมรัยไทยแลนด์

Summary

  • จับตา 8 บริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ มีโอกาสประกาศ “ซื้อหุ้นคืน” อีก หลัง TTB นำร่องตั้งงบ 2.1 หมื่นล้านบาท ลุยซื้อหุ้นคืนใน 3 ปี หวังสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผู้ถือหุ้น

Latest


การซื้อหุ้นคืน หรือ Treasury Stock เป็นกลยุทธ์ทางการเงินที่บริษัทจดทะเบียนใช้ในการนำเงินสดส่วนเกินไปซื้อหุ้นของตัวเองกลับคืนจากตลาดหลักทรัพย์ โดยหุ้นที่ถูกซื้อคืนจะถูกนำออกจากการหมุนเวียนในตลาด และเมื่อจำนวนหุ้นที่หมุนเวียนในตลาดลดลง มีโอกาสทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนเพิ่มขึ้น และอาจสามารถช่วยลดความผันผวนของราคาหุ้น รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้

ล่าสุด TTB ได้ประกาศทำโครงการซื้อหุ้นคืน โดยตั้งวงเงินรวมไม่เกิน 2.1 หมื่นล้านบาท ภายใน 3 ปี ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ มีมุมมองเชิงบวก คาดช่วยยกระดับอัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ภายใต้ราคาหุ้นปัจจุบันซึ่งยังต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี นอกจากนี้ ยังประเมินว่ากระแสเก็งกำไรหุ้นทุนซื้อคืนในตลาดนับจากนี้จะมีแนวโน้มคึกคักขึ้น พร้อมเปิดรายชื่อ 8 หุ้นใหญ่ มีโอกาสประกาศซื้อหุ้นคืนเพิ่ม

TTB นำร่อง ตั้งงบ 2.1 หมื่นล้านบาท “ซื้อหุ้นคืน” ภายใน 3 ปี

ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น TTB ได้ประกาศทำโครงการซื้อหุ้นคืน โดยตั้งวงเงินรวมไม่เกิน 2.1 หมื่นล้านบาท ภายใน 3 ปี (ระหว่างปี 2568-2570) ซึ่งจะเริ่มซื้อหุ้นคืนครั้งแรก 7 พันล้านบาท ไม่เกิน 3.5 พันล้านหุ้น หรือ 3.6% ของหุ้นทั้งหมด โดยวิธีการจับคู่อัตโนมัติผ่านระบบซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ถึง 1 สิงหาคม 2568

นอกจากนี้ TTB ยังมีระบุว่า โครงการซื้อหุ้นคืนถือเป็นหนึ่งในแผนงานด้านการบริหารส่วนทุนของธนาคาร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้นผ่านการปรับโครงสร้างและขนาดงบดุลให้มีความเหมาะสมมากขึ้น

โบรกฯ มองบวก คาด ROE ระยะยาวดีขึ้น

ในกรณีดังกล่าว นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ให้ความเห็นว่ามีมุมมองบวกจากการซื้อหุ้นคืน เพื่อยกระดับอัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ภายใต้ราคาหุ้นปัจจุบันซึ่งยังต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี

ทั้งนี้ เพื่อสะท้อนแนวโน้ม ROE ระยะยาว ที่มีโอกาสดีขึ้นจากมุมมองเดิม ตามโครงการซื้อหุ้นคืน และความผันผวนของราคาหุ้นลดลงระหว่างดำเนินโครงการฯ จึงปรับ P/BV ที่ใช้ในการประเมินมูลค่าอยู่ที่ 0.85 เท่า (เดิม 0.8 เท่า) ได้ราคาเหมาะสมใหม่ที่ 2.14 บาท (เดิม 2.02 บาท) เพิ่มคำแนะนำเป็น “Outperform” ขณะที่ผลตอบแทนจากเงินปันผลอยู่ในระดับ 7% ต่อปี ถือว่าน่าสนใจ

เก็งลิสต์ 8 หุ้น บิ๊กแคป มีโอกาสซื้อหุ้นคืน

ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ประเมินกระแสเก็งกำไรหุ้นทุนซื้อคืน (Treasury Stocks) ในตลาดนับจากนี้ มีแนวโน้มคึกคักขึ้น โดยเฉพาะฝั่งหุ้นขนาดใหญ่และขนาดกลาง หลัง TTB นำร่องประกาศซื้อคืนวานนี้ 3 ปี ปีละ 7 พันล้านบาท กรอบวงเงินรวม 2.1 หมื่นล้านบาท หากอิงเกณฑ์ที่ทีมกลยุทธ์ใช้คัดเลือกหุ้นที่มีโอกาสซื้อคืนในลำดับถัดไป ได้แก่

  • เป็นหุ้น Undervalue ที่ซื้อขายต่ำมูลค่าทางบัญชี หรือมี P/BV ต่ำกว่า 1.0 เท่า
  • มีสภาพคล่องมากพอซื้อคืน > 5.0% ของมูลค่าตลาดหุ้น (Market Cap) และมีสภาพคล่องเข้าเกณฑ์ของตลาดฯ
  • มีสภาพคล่องเพียงพอชำระหนี้ครบกำหนดในอีก 1 ปี (เทียบตลาดกำหนด 6 เดือน)
  • มีกำไรสะสมยังไม่ได้จัดสรรในงบเดี่ยวเพียงพอรองรับการซื้อคืน

พบว่ามีหุ้น Big Cap หลักๆ ในกลุ่มพลังงาน ธนาคาร ปิโตรเคมีที่มีโอกาสเห็นการซื้อคืนระยะถัดไป จำนวน 8 บริษัท อาทิ

  1. หุ้น PTT มี P/BV ที่ระดับ 0.79 เท่า
  2. หุ้น SCB มี P/BV ที่ระดับ 0.85 เท่า
  3. หุ้น KBANK มี P/BV ที่ระดับ 0.67 เท่า
  4. หุ้น KTB มี P/BV ที่ระดับ 0.71 เท่า
  5. หุ้น BBL มี P/BV ที่ระดับ 0.53 เท่า
  6. หุ้น PTTGC มี P/BV ที่ระดับ 0.37 เท่า
  7. หุ้น TOP มี P/BV ที่ระดับ 0.36 เท่า
  8. หุ้น BCP มี P/BV ที่ระดับ 0.8 เท่า

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/investment 
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้
https://www.facebook.com/ThairathMoney 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ