เคล็ดลับกระจายลงทุน

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

เคล็ดลับกระจายลงทุน

Date Time: 17 ม.ค. 2568 04:50 น.

Summary

  • เทคนิคหนึ่งที่นักลงทุนใช้ปกป้องพอร์ตลงทุน คือ การแบ่งหรือกระจายการลงทุน ทั้งในประเภทสินทรัพย์ลงทุน เช่น เลือกลงทุนในหุ้น กองทุน พันธบัตร และระดับภายในสินทรัพย์ที่เราลงทุน เช่น เลือกซื้อหุ้นตัวไหน ประเภทกิจการอะไร

Latest

SHR โรงแรมเครือ “สิงห์ เอสเตท” ออกหุ้นกู้ใหม่ 2 ชุด ดอกเบี้ยสูงสุด 5% เตรียมเสนอขาย 4-6 ก.พ. 68

เริ่มต้นปีใหม่กันแล้ว “คุณนายพารวย” หวังว่าแฟนๆ คอลัมน์ “รู้เก็บรู้ออมฯ” จะไม่ลืมสัญญาที่ให้ไว้กับตัวเองว่า เราจะเริ่มต้นปีใหม่ด้วยการวางแผนการเงินการลงทุนไม่ผัดวันประกันพรุ่งเหมือนปีที่ผ่านมาอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม การลงทุนนั้นย่อมมีความเสี่ยง ซึ่งนักลงทุนเองก็ต้องหาวิธีจัดการกับความเสี่ยงเพื่อให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด

เทคนิคหนึ่งที่นักลงทุนใช้ปกป้องพอร์ตลงทุน คือ การแบ่งหรือกระจายการลงทุน ทั้งในประเภทสินทรัพย์ลงทุน เช่น เลือกลงทุนในหุ้น กองทุน พันธบัตร และระดับภายในสินทรัพย์ที่เราลงทุน เช่น เลือกซื้อหุ้นตัวไหน ประเภทกิจการอะไร

ลองนึกภาพว่า ถ้าเรามีเงินทั้งหมดอยู่ในหุ้นตัวเดียว แล้ววันดีคืนดี หุ้นที่ถืออยู่ราคาร่วงเอาๆ ทำให้เราอาจต้องเสียเงินหมดเลยทั้งก้อน การแบ่งหรือกระจายลงทุน จะเป็นวิธีช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดการขาดทุนหนักจากการลงทุนในสินทรัพย์ตัวเดียว ขณะเดียวกัน ก็ให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจและช่วยลดความผันผวนลงได้ เช่น บางปีตลาดหุ้นอาจไม่ดี ทำให้เราขาดทุน แต่เราได้กำไรจากทองคำมาช่วยชดเชยแทน

ข้อมูลจากเว็บไซต์ www.setinvestnow.com โดยตลาดหลักทรัพย์และสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุนแนะเคล็ดลับการกระจายลงทุนที่ช่วยบริหารพอร์ตลงทุน ประกอบไปด้วย 1.ประเมินความเสี่ยงที่เหมาะและตัวเองยอมรับได้ พิจารณาควบคู่กับเป้าหมาย, ระยะเวลาลงทุน เพื่อจะได้เกลี่ยน้ำหนักลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ

2.เข้าใจลักษณะผลตอบแทน และความเสี่ยงที่แตกต่างกันของแต่ละประเภทสินทรัพย์ลงทุนว่า ผลตอบแทนสูงก็จะมีความเสี่ยงสูงตามด้วย เช่น พันธบัตรรัฐบาล จะเสี่ยงน้อยกว่าหุ้นและทองคำ โดยหุ้นและทองคำจัดเป็นสินทรัพย์เสี่ยงทั้งคู่ ที่ไม่ควรทุ่มลงทุน
เพียงอย่างเดียว

3.แบ่งลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภท พันธบัตร หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ ทองคำ และกองทุนทองคำ ควรจะมีเก็บไว้ในพอร์ตลงทุน

4.วางน้ำหนักการลงทุนให้เหมาะกับระดับการยอมรับความเสี่ยงของตัวเอง นักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยง ก็ลงทุนในตราสารหนี้ 60-80% หุ้น 20-40% ส่วนนักลงทุนที่จิตแข็ง รับความเสี่ยงสูง รักความท้าทาย ก็สามารถเพิ่มการลงทุนในหุ้นเป็น 60-70% และตราสารหนี้ 30-40%

และ 5.ในการลงทุนหุ้น หากเลือกซื้อหุ้นเป็นรายตัวขอแนะนำให้กระจายในหุ้นหลายตัว และหลายอุตสาหกรรม โดยคัดเลือกหุ้นจากบทวิเคราะห์ทางปัจจัยพื้นฐานที่ดี และอุตสาหกรรมที่เติบโต เพื่อลดความเสี่ยงจากการลงทุน

เพียงเท่านี้ เมล็ดพืชที่เราหว่านก็จะออกพืชผลหลายชนิดให้เราได้เก็บไว้กินไว้ใช้กันยาวๆ.

คุณนายพารวย

คลิกอ่านคอลัมน์ “รู้เก็บรู้ออม” เพิ่มเติม


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ