ความเคลื่อนไหวการเข้าทำการซื้อขายครั้งแรกของ บริษัท ที.แมน ฟาร์มาซูติคอล จำกัด (มหาชน) หรือ TMAN เข้าทำการซื้อขายวันแรกที่ 18.70 บาท เพิ่ม 2.40 บาท หรือ 14.72% จากราคา IPO ที่ 16.30 บาท
ทั้งนี้ TMAN นับเป็นหุ้นไอพีโอที่เปิดการซื้อขายด้วยราคาเหนือจอง เป็นหุ้นตัวที่ 8 ติดต่อกัน จากก่อนหน้าที่มี NCP, PMC, PCE, SEI, OKJ, TATG, MEDEZE ซึ่งสะท้อนภาวะตลาดหุ้นที่อยู่ในช่วงขาขึ้นสุดขีด
ทั้งนี้ TMAN ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ของบริษัทกว่า 200 แบรนด์ รวมทั้งรับจ้างผลิตและจัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ของบุคคลภายนอก ผลิตภัณฑ์ของ TMAN แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่
ยาแผนปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอื่นๆ โดยมีแบรนด์ Propoliz, ไอยรา, Myda, IBUMAN, Polar และ Vita-C เป็นแบรนด์หลักที่ประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค
TMAN มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วหลัง IPO 300.00 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.75 บาท เสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก จำนวนรวม 102 ล้านหุ้น ประกอบด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 71.43 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมของ TKW Capital Limited จำนวน 30.57 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 16.30 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนจากหุ้นใหม่ 1,164.31 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 6,520.05 ล้านบาท
โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ
อย่างไรก็ตามเมื่อตรวจสอบรายชื่อผู้ถือหุ้น พบว่ามีนักลงทุนรายใหญ่และเซียนหุ้นเข้ามาจองซื้อหุ้นไอพีโอจำนวนมาก โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รายงานผู้ถือหุ้นใหญ่ พบ 2 เซียนหุ้นชื่อดัง คือ
นอกจากนี้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. รายงานรายชื่อผู้จองซื้อหุ้นไอพีโอ พบอีก 4 นักลงทุนชื่อดังที่เข้าจองซื้อเช่นกัน ได้แก่
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินว่า TMAN เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ของกลุ่มบริษัทเอง (98% ของรายได้ปี 2023) และรับจ้างผลิตและจำหน่ายเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ของบุคคลภายนอก บริษัทมีประสบการณ์กว่า 50 ปี
มีแบรนด์ที่เป็น Product champion 5 แบรนด์หลักคือ Propoliz, Vita-C, Myda, IBUMAN และไอยรา โดยมีสัดส่วนรวมกัน 46% ของรายได้ขายปี 2023 เราคาดรายได้ 3 ปีข้างหน้า (ปี 2567-2569) +14% CAGR จากผลิตภัณฑ์เดิมและผลิตภัณฑ์ใหม่ และคาดกำไรสุทธิขยายตัว
ปี 2567 กำไรเติบโต 21%
ปี 2568 กำไรเติบโต 9%
ปี 2569 กำไรเติบโต 9%
ประเมินราคาเป้าหมายปี 2025 ที่ 25.50 บาท
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่