หลังจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ได้มีมติอนุมัติการควบบริษัทระหว่าง GULF และ INTUCH โดยพบว่ามีผู้คัดค้านธุรกรรมการควบบริษัท จำนวน 715,100 หุ้น ซึ่งคิดเป็น 0.0068% นั้น
ล่าสุด GULF ประกาศว่า “สารัชถ์ รัตนาวะดี” ซีอีโอและผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จะเป็นผู้รับซื้อหุ้นคืน ที่ราคา 56.50 บาท ในระหว่างวันที่ 17-30 ตุลาคม 2567 อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นที่รับซื้อคืนนั้น ต่ำกว่าราคาล่าสุด (10.30 น.) 2.50 บาท หรือ -4.23% ที่ 59.00 บาทต่อหุ้น
ก่อนหน้านี้ตามที่ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 ของบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ได้มีมติอนุมัติการควบบริษัทระหว่าง GULF และบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นซึ่งมาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนนนั้น
ในการประชุมผู้ถือหุ้นดังกล่าวมีผู้ถือหุ้นที่ออกเสียงลงคะแนนคัดค้านธุรกรรมการควบบริษัท จำนวน 715,100 หุ้น ซึ่งคิดเป็น 0.0068% ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ซึ่งมาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน
ล่าสุด GULF แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า สารัชถ์ รัตนาวะดี ได้แสดงความประสงค์ที่จะเป็นผู้รับซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้าน หรือ “ผู้รับซื้อหุ้น” โดยจะรับซื้อที่ราคา 56.50 บาท ซึ่งเป็นราคาปิดของหุ้นของบริษัทฯ ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 2 ตุลาคม 2567
และผู้รับซื้อหุ้นจะดำเนินการรับซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้านในระหว่างวันที่ 17 ถึง 30 ตุลาคม 2567
อย่างไรก็ตาม หาก สารัชถ์ รัตนาวะดี มีการรับซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้านธุรกรรมควบรวมดังกล่าวทั้งหมด จำนวน 715,100 หุ้น ที่ราคา 56.50 บาท คาดว่าจะใช้เงินทั้งหมด 40,403,150 ล้านบาท
โดยราคารับซื้อคืนที่ 56.50 นั้นเป็นราคาปิดของหุ้นของบริษัทฯ ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 2 ตุลาคม 2567 ซึ่งถือเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคาซื้อขายล่าสุด เวลา 10.30 น. ที่ 59.00 บาทต่อหุ้น หรือต่ำกว่า 2.50 บาท (-4.23%)
ปัจจุบัน สารัชถ์ รัตนาวะดี ซึ่งดำรงตำแหน่ง กรรมการ รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ GULF เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 โดยข้อมูล ณ วันที่ 9 ส.ค. 2567 พบถือจำนวน 4,202,177,897 หุ้น หรือคิดเป็น 35.81% ของหุ้นทั้งหมด
สำหรับการควบรวมระหว่าง GULF และ INTUCH นั้น เป็นการปรับโครงสร้างของบริษัทที่เกี่ยวข้อง ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการดำเนินการในการบริหารจัดการและการลงทุนในอนาคต รวมทั้งเพื่อลดความซ้ำซ้อนของโครงสร้างการถือหุ้นและต่อยอดโอกาสเติบโตในธุรกิจพลังงาน และโครงสร้างพื้นฐาน และธุรกิจดิจิทัล
ซึ่งการควบรวมดังกล่าว จะมีการจัดตั้งเป็นบริษัทใหม่ (NewCo) ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พร้อมทําคําเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดโดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไข (VTO) ในหุ้นสามัญของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น ADVANC และ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น THCOM ด้วย โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 2/68
ทั้งนี้ ในที่ประชุมผู้ถือหุ้นที่ผ่านมา สารัชถ์ เปิดเผยว่า การรับซื้อหุ้น GULF เพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจเป็น NewCo นั้น เป็นการรับซื้อตามราคาตลาดที่ปิดเมื่อวันที่ 2 ต.ค. โดยต้องนำใบหุ้นมาแสดง ซึ่งหลังการควบรวมธุรกิจต่างๆ ก็สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้
ด้าน ยุพาพิน วังวิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน กล่าวว่า GULF วางโพสิชั่นธุรกิจเป็น Growth Company ไม่ใช่ Dividend Stock (หุ้นปันผล) และทิศทางของธุรกิจหลังควบรวมเป็น NewCo ยังเน้นการลงทุนด้านพลังงาน โดยเฉพาะพลังงานสะอาด และยังมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจด้านพลังงาน 80%
หลังการควบรวมแล้วเสร็จ จะทราบถึงผลกำไรของธุรกิจในกลุ่มโทรคมนาคมมากขึ้น รวมถึงการลงทุนในธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์และคลาวด์ ส่วนชื่อใหม่ของบริษัทจะแจ้งให้ทราบต่อไป
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้