คุณภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดเผยในงาน Thailand Focus 2024 ที่จัดโดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า ตลาดหุ้นไทยกำลังฟื้นตัว ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด มีกำไรเติบโต 9.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนถึงศักยภาพของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยที่ยังสามารถเติบโตได้สูง การฟื้นตัวตลาดหุ้นไทยในรอบนี้ เป็นการฟื้นตัวที่มีความไม่แน่นอนในประเทศน้อยที่สุด เห็นได้จากความชัดเจนเรื่องเศรษฐกิจที่ค่อยๆปรับตัวดีขึ้น ทิศทางการเมืองมีความแน่นอนขึ้น ภาคการท่องเที่ยวโตต่อเนื่อง และที่สำคัญที่สุดกำไรบริษัทจดทะเบียนเติบโตชัดเจน
ก็เป็นครั้งแรกที่ตลาดหลักทรัพย์ออกมาให้ความมั่นใจกับนักลงทุน หลังจากที่ตลาดหุ้นไทยเจอพิษเศรษฐกิจการเมืองผันผวนจนนักลงทุนถอดใจ งาน Thailand Focus 2024 ที่ตลาดหลักทรัพย์จัดขึ้นระหว่าง 28-30 สิงหาคม มีผู้ลงทุนสถาบัน 178 ราย จาก 80 สถาบันทั่วโลกเข้าร่วมรับฟังข้อมูล และมีผู้บริหารระดับสูงของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) 112 บริษัท ร่วมให้ข้อมูลแก่นักลงทุนในรูปแบบตัวต่อตัว (one on one) และการประชุมกลุ่ม
ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์เปิดเผยว่า ผลประกอบการของ บจ. ในงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 ใน SET มียอดขายรวมกันทั้งสิ้นกว่า 8.9 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6.3% มีกำไรจากการดำเนินงาน (core profit) 922,736 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 18.7% และมีกำไรสุทธิ 519,312 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 9.7% และมีหนี้สินต่อทุน (D/E ratio) อยู่ในระดับตํ่าเพียง 1.51 เท่า มีหลายโบรกเกอร์ที่คาดว่า กำไรสุทธิของ บจ. ในครึ่งปีหลังจะอยู่ที่ 590,000 ล้านบาท รวมแล้ว กำไรสุทธิทั้งปี 2567 จะเป็น 1.1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 27% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ใน เดือนกันยายนนี้ ซึ่งผมได้เขียนไปเมื่อวานนี้ว่า ประมาณ 20 กันยายน รัฐบาลใหม่จะมีการแจกเงินดิจิทัลคนละ 10,000 บาท เป็น “เงินสด” ให้กับกลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน ในวงเงิน 145,000 ล้านบาท สามารถนำไปใช้จ่ายอะไรก็ได้ ไม่มีการบังคับเหมือนเงินดิจิทัล เป็นการเติมเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอีก 145,000 ล้านบาท ส่งผลให้กำลังซื้อในประเทศดีขึ้น
นอกจากนี้ คุณพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และรัฐมนตรีคลัง เปิดเผยด้วยว่า ปลายเดือนกันยายนหรือต้นเดือนตุลาคม กระทรวงการคลังจะนำหน่วยลงทุนของ “กองทุนวายุภักษ์” ออกจำหน่ายให้กับประชาชนทั่วไป 140,000 ล้านบาท โดยให้ผลตอบแทนที่ชัดเจน เท่าที่ผมทราบ
คาดว่าผลตอบแทนขั้นตํ่าจะอยู่ที่ 3% ขั้นสูงอาจจะเกิน 5% ขึ้นไป และ เงินที่ได้จากการขายหน่วยลงทุนวายุภักษ์จะนำไปลงทุนในตลาดหุ้นไทย ซึ่งจะทำให้ราคาหุ้นเด้งขึ้นแน่นอน คุณพิชัย คาดหวังว่า ดัชนี SET จะกลับขึ้นไปยืนที่ระดับ 1,800 จุด ซึ่งจะทำให้ Market Cap ตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ 20 ล้านล้านบาท ช่วยฟื้นความเชื่อมั่นอีกครั้ง
กันยายนเดือนเดียว จะมีเงินเข้าไปในระบบเศรษฐกิจ 145,000 ล้านบาท เข้าไปในตลาดหุ้น 140,000 ล้านบาท ผมเชื่อว่าสถานการณ์เศรษฐกิจและตลาดหุ้นจะดีขึ้นแน่นอน
เมื่อวานนี้ 2 กันยายน ตลาดหลักทรัพย์ ยังได้ เพิ่มมาตรการป้องกันการปั่นหุ้น เข้าไปอีก 3 มาตรการ คือ 1.กำหนดกรอบราคาซื้อขายแบบ Dynamic Price Band (DPB) เป็นรายหลักทรัพย์ (ให้มีราคาขึ้นลง 10% จากราคาซื้อขายล่าสุด) เพิ่มเติมจาก Ceiling/ Floor (ขึ้นลง 30% จากราคาปิดในวันทำการก่อนหน้า) เพื่อควบคุมราคาไม่ให้ผันผวนเกินไป 2.เพิ่มมาตรการกำกับการซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายผิดปกติ โดยวิธีจับคู่ในคราวเดียวกัน (Auction) ตามช่วงเวลา 3.กำหนดเวลาขั้นตํ่าของคำสั่งซื้อขาย ต้องอยู่ในระบบ 250 มิลลิวินาที ก่อนที่จะสามารถแก้ไขหรือยกเลิกคำสั่งซื้อขาย
ทั้งหมดนี้ เป็นข่าวดีใหม่ที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ผมเลยเอามาฝากกันครับ.
“ลม เปลี่ยนทิศ”
คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม