การรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้รับความสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะหุ้นที่มีประเด็นร้อนแรง มักเป็นที่จับตามองของนักลงทุน จากสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ถือหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ในครั้งนี้ “Thairath Money” รวบรวมผลประกอบการของบริษัทที่มีประเด็นร้อนแรงในไตรมาสที่ 2/2567 จำนวน 4 บริษัท ได้แก่ EA, NEX, YGG และ SABUY โดยพบว่าส่วนใหญ่กำไรสุทธิลดลงอย่างหนัก ขณะที่ราคาหุ้นเหล่านี้ก็มีความผันผวนสูง โดยพบว่าส่วนใหญ่ราคาหุ้นต่างปรับลดลงมากกว่า 90% จากต้นปี
เริ่มกันที่ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น EA ผู้ประกอบธุรกิจพลังงานทดแทน ที่ก่อนหน้านี้เกิดวิกฤติความเชื่อมั่นของผู้ถือหุ้น หลังสำนักงาน ก.ล.ต. กล่าวโทษอดีตผู้บริหารกรณีร่วมกันทุจริต กดดันราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่อเนื่องมากกว่า 90% จากต้นปี มาอยู่ที่ 4.12 บาทต่อหุ้น
ทั้งนี้ EA รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/67 มีกำไรสุทธิ 541.73 ล้านบาท ซึ่งลดลง 74% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,160 ล้านบาท การลดลงของกำไรหลักมาจากธุรกิจรถโดยสารไฟฟ้าและรถเพื่อการพาณิชย์ มียอดส่งมอบรถน้อยลง ทำให้รายได้ลดลง ขณะที่ธุรกิจแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมและการร่วมค้าลดลงเช่นกัน
ล่าสุด นักลงทุนต่างจับตาการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ EA รุ่น EA249A เพื่อขอพิจารณาอนุมัติการขยายวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ไปอีก 9 เดือน 16 วัน โดยไม่ถือเป็นเหตุผิดนัด และเพิ่มดอกเบี้ยเป็น 5% ต่อปี โดยแจ้งเลื่อนนัดใหม่เป็นวันที่ 23 ส.ค.นี้
ด้าน บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น NEX ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มของ EA ที่เรียกได้ว่าราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาผันผวนไม่แพ้กัน โดยราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่อเนื่องมากกว่า 90% จากต้นปี มาอยู่ที่ 0.60 บาท จากประเด็นเรื่องความเชื่อมั่นดังกล่าว
โดย NEX รายงานงบการเงินไตรมาส 2/67 ขาดทุนสุทธิ 255.61 ล้านบาท ลดลง 608% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 352.50 ล้านบาท หลังกําไรขั้นต้นของธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ และส่วนแบ่งกําไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมลดลง
ต่อมาคือ บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น SABUY บริษัทเทคโนโลยีที่ใช้กลยุทธ์การขยายธุรกิจจากการนำเงินไปลงทุนในหุ้นจำนวนมาก ประสบปัญหาราคาหุ้นร่วงลงอย่างหนัก จากปัญหาขาดสภาพคล่อง ขณะที่ “เจ้าของเดิม” ทยอยขายหุ้น ประกอบกับมีหุ้นที่โดนบังคับขาย (Force Sell) ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำราคาหุ้นดิ่งกว่า 90% จากต้นปี เหลือเพียง 0.42 บาทต่อหุ้นเท่านั้น
ล่าสุด รายงานผลงานพลิกผลขาดทุนสุทธิในไตรมาส 2/67 ส่วนของบริษัทใหญ่จำนวน 2.91 พันล้านบาท ลดลง 1,722% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังรับผลขาดทุนจากการจำหน่ายเงินลงทุน เนื่องจากถูก Force Sell เงินลงทุนใน SBNEXT และ AS เพื่อลดภาระหนี้กับบริษัทหลักทรัพย์
ขณะเดียวกัน บริษัทรับรู้ผลขาดทุนจากการเสียอำนาจการควบคุมในบริษัทย่อยฯ รวมไปถึงการรับรู้ผลขาดทุนจากการด้อยค่าของค่าความนิยมและสินทรัพย์ไม่มีตัวตนสำหรับกลุ่มธุรกิจที่มีการปรับเปลี่ยนแผนการดำเนินธุรกิจใหม่
และสุดท้าย คือ บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น YGG ผู้ออกแบบและจัดทำคอมพิวเตอร์กราฟิก เจ้าของเกมชื่อดังอย่าง “Home Sweet Home” หลังมีประเด็นผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ ถูกบังคับขาย (Force Sell) หลักทรัพย์ที่นำไปค้ำประกันบัญชีมาร์จิ้น ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงจากต้นปี 82.52% มาอยู่ที่ 0.89 บาท
โดย YGG รายงานงบไตรมาส 2/67 ขาดทุนสุทธิรวม 365.16 ล้านบาท ลดลงกว่า 1,519% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังรายได้รวมลดลงจากลูกค้ารายใหญ่ในต่างประเทศบางราย ได้ชะลอการตรวจรับงานจากการปรับเปลี่ยนแผนการดำเนินงานในโครงการ ขณะเดียวกัน มีการรับรู้ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดข้ึน และผลขาดทุนจากการตัดจำหน่ายสินทรัพย์ต่างๆ ด้วย
ล่าสุด ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นเครื่องหมายเตือน CB (Caution-Business) จาก บริษัทผิดนัดชำระหนี้สถาบันการเงิน หลังแจ้งว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาขอเลื่อนการชำระคืนของเงินต้นและดอกเบี้ยกับสถาบันการเงิน หลังประสบความไม่แน่นอนในเรื่องสภาวะสภาพคล่อง ทำให้ผิดนัดชำระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงินส่วนที่เหลือจำนวน 8 ล้านบาท
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้