นักลงทุนต่างจับตาสถานการณ์ของบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA หลังที่ประชุมผู้ถือหน่วยทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (WHART) มีมติไม่อนุมัติการลงทุนเพิ่มเติมในอสังหาริมทรัพย์สิทธิการเช่าและสิทธิการเช่าช่วงของอสังหาริมทรัพย์ที่จะลงทุนเพิ่มเติม ประกอบด้วยโครงการ WHA Mega Logistics Center เทพารักษ์ กม. 21 (อาคาร A, C, D) และศูนย์กระจายสินค้า WGCL International Distribution Center Project (WGCL IDC)
เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ในช่วงปลายสัปดาห์ผ่านมา ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น WHA ปรับตัวลดลงอย่างหนัก เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลว่า การที่บริษัทไม่สามารถขายสินทรัพย์เข้ากอง WHART ได้ตามแผนจะกระทบต่อสภาพคล่องและการดำเนินธุรกิจในอนาคตหรือไม่
จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เปิดเผยว่า บริษัทได้สอบถามเบื้องต้นไปยังผู้ถือหน่วยลงทุนทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (WHART) ที่โหวตมีมติไม่อนุมัติการลงทุนเพิ่มเติม พบว่ามาจากความกังวลด้านภาพรวมเศรษฐกิจไทย และสถานการณ์ตลาดหุ้นในปัจจุบัน จึงยังไม่ต้องการให้มีการเพิ่มทุน
อย่างไรก็ตาม บริษัทเตรียมเข้าไปให้ข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจกับผู้ถือหน่วยลงทุน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนสถาบันกว่า 65% ส่วนที่เหลือเป็นนักลงทุนรายย่อยถือในสัดส่วน 20% และ WHA ถือในสัดส่วน 15%
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะนำสินทรัพย์ดังกล่าวเสนอขายเข้ากอง WHART อีกครั้งในปี 2568 พร้อมมีความมั่นใจว่าโครงการดังกล่าวมีศักยภาพสูง จากปัจจุบันมีอัตราการเช่า 100% ตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ พร้อมมีสัญญาระยะยาวกับลูกค้าที่มีชื่อเสียงสูง ทำให้ไม่มีแผนที่จะลดราคาขายสินทรัพย์ด้วย
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อแผนการดำเนินธุรกิจและสภาพคล่อง เนื่องจากแผนการขายสินทรัพย์เข้ากองครั้งนี้ บริษัทจะรับรู้เงินเข้ามาราว 1.7 พันล้านบาทเท่านั้น ซึ่งถือเป็นสัดส่วนน้อยเมื่อเทียบกับเม็ดเงินของแผนการลงทุนในภาพรวมในช่วง 5 ปี ที่ระดับ 7.87 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังมีความสามารถในการหาแหล่งเงินทุนอื่นได้อีกมาก โดยเฉพาะการทำ Green Finance จากอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน (Net IBD/Equity) ปัจจุบันอยู่เพียง 0.97 เท่า
ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีรายได้ประจำที่สามารถชดเชยได้จาก 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ โลจิสติกส์, นิคมอุตสาหกรรม, สาธารณูปโภคและพลังงาน และดิจิทัล โซลูชัน ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง ทำให้ไม่ต้องพึ่งพิงสัดส่วนจากการขายสินทรัพย์เข้ากองมากนักเหมือนในอดีต
พร้อมกันนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโต โดยยังมีสัญญาณที่ดีของความต้องการที่ดินต่อเนื่องในช่วงไตรมาสที่ 1/67 จากการเคลื่อนย้ายฐานผลิตเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผลิตชิ้นส่วนยานยนต์, โรงงานแบตเตอรี, เซมิคอนดักเตอร์, เครื่องใช้ไฟฟ้า และดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีที่ดินในมือกว่า 8,800 ไร่ เพียงพอต่อการพัฒนาเพื่อขายในอีก 5 ปีข้างหน้า
จรีพร กล่าวอีกว่า บริษัทมีแผนผลักดันบริษัทย่อยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (spin-off) ภายในปี 2568 จำนวน 1 บริษัท จากมองเห็นโอกาสข้างหน้าในการเติบโต ซึ่งจะทำให้ได้ WHA มีสภาพคล่องเข้ามาเพิ่มเติมด้วย พร้อมคาดหวังว่าจะ spin-off บริษัทย่อยเพิ่มเติมอีก 4-5 บริษัทในระยะยาว
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้