นักลงทุนทั่วโลกต่างให้ความสนใจ หลังราคาหุ้น Class-A ของบริษัท Berkshire Hathaway ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปรับตัวลดลงกว่า 99% เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ในครั้งนี้ “Thairath Money” จะพาไปเปิดสาเหตุของปัญหาดังกล่าว พร้อมทำความรู้จักกับบริษัทโฮลดิ้งยักษ์ใหญ่อย่าง Berkshire Hathaway ของมหาเศรษฐีและนักลงทุนชื่อดัง “วอร์เรน บัฟเฟตต์”
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ราคาหุ้น Class-A บริษัท Berkshire Hathaway Inc. (BRK.A) ของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก (NYSE) ปรับตัวลดลงจาก 627,400 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 22.9 ล้านบาทต่อหุ้น เหลือเพียง 185 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 6,700 บาทต่อหุ้น ลดลงมากกว่า 99%
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ประเด็นดังกล่าวเป็น “ปัญหาทางเทคนิค” ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทต่างๆ กว่า 40 บริษัท รวมถึงราคาหุ้นของบริษัท Berkshire Hathaway Inc. แสดงผลราคาผิดพลาด และลดลงกว่า 99% ซึ่งเป็นทริกเกอร์ให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ หยุดทำการซื้อขายชั่วคราว
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ระบุว่า จะทำการยกเลิกรายการซื้อขายที่ผิดพลาดดังกล่าว และอยู่ระหว่างตรวจสอบเพื่อพิจารณาว่าจะยกเลิกการซื้อขายอื่นๆ อีกหรือไม่ โดยล่าสุดรายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้รับการแก้ไข และกลับมาเปิดทำการซื้อขายปกติแล้ว
นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก มีการตั้งข้อสังเกตว่าความผิดพลาดดังกล่าว อาจมาจากการประมวลผลข้อมูลความปลอดภัย (SIP) ของ Consolidated Tape Association (CTA) ซึ่งเป็นผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการเผยแพร่ข้อมูลการซื้อขาย และการเสนอราคาแบบเรียลไทม์
ซึ่งต่อมา Consolidated Tape Association (CTA) ได้ออกมาเปิดเผยว่า ปัญหา “อาจเกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์รุ่นใหม่” และเพื่อแก้ไขปัญหานี้ จะกลับไปอาศัยศูนย์ข้อมูลรองที่ทำงานบนซอฟต์แวร์เวอร์ชันเก่า
บริษัท Berkshire Hathaway ดำเนินเป็นกลุ่มธุรกิจโฮลดิ้งขนาดใหญ่ ผ่านการถือหุ้นในบริษัทย่อย และการลงทุนในหุ้นของบริษัทอื่นๆ ในภาคธุรกิจที่สำคัญ ได้แก่ ธุรกิจประกันภัย, การรถไฟ, พลังงานและสาธารณูปโภค, การผลิต บริการ และการค้าปลีก และการเงิน เป็นต้น
นอกจากนี้ Berkshire Hathaway ยังมีพอร์ตการลงทุนที่เป็นที่รู้จักและมีการถือหุ้นในบริษัทชั้นนำหลายบริษัทอย่าง Apple, Bank of America, Coca-Cola และ American Express ด้วย
ปัจจุบันหุ้น Berkshire Hathaway Inc Class A (BRK.A) มีมูลค่าหลักทรัพย์ตลาดราคาตลาดอยู่ราว 9 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 32.99 ล้านล้านบาท
สำหรับผลประกอบการล่าสุด ข้อมูลจากงบการเงินระบุว่า บริษัทมีรายได้รวมไตรมาส 1/67 ที่ 89,869 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 85,393 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนกำไรสุทธิไตรมาส 1/67 อยู่ที่ 12,832 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ 35,757 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยรายได้รวมเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการขนส่งทางรถไฟสาธารณูปโภคและพลังงาน ขณะที่กำไรสุทธิลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยระบุว่ามาจากค่าใช้จ่ายรวมที่เพิ่มขึ้น.
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้