เปิดพอร์ต ก.คลัง ถือหุ้นไทย หลังเล็งทบทวน ขายหุ้นไม่จำเป็น พบ 3 หุ้น “ฟอร์มตก” MCOT ขาดทุน

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เปิดพอร์ต ก.คลัง ถือหุ้นไทย หลังเล็งทบทวน ขายหุ้นไม่จำเป็น พบ 3 หุ้น “ฟอร์มตก” MCOT ขาดทุน

Date Time: 23 พ.ค. 2567 10:35 น.

Video

วิธีเอาตัวรอดของ Wikipedia ไม่พึ่งโฆษณา ไม่มีค่าสมาชิก แต่อยู่มาได้ 23 ปี | Digital Frontiers

Summary

  • เปิดพอร์ต “กระทรวงการคลัง” พบถือหุ้นไทยกว่า 1.19 ล้านบาท กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ มีสัดส่วนมากกว่าครึ่ง 56.14% จับตาแผนทบทวนการถือหุ้นเพื่อบริหารการลงทุนสร้างผลกำไร พบ 3 บริษัท ไตรมาสแรก “ฟอร์มตก”

Latest


เปิดพอร์ตหุ้นไทยของ “กระทรวงการคลัง” หลัง เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง มีคำสั่งให้ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ทบทวนการถือหุ้นของกระทรวงการคลัง ทั้งหุ้นที่ควรถือครองไว้ เช่น หุ้นที่รัฐมีนโยบายต้องถือครอง รวมถึงหุ้นที่ไม่มีความจำเป็นต้องถือและควรจำหน่ายออก เช่น หุ้นจากการยึดทรัพย์ เพื่อบริหารแผนการลงทุนสร้างกำไรให้รัฐ


ในครั้งนี้ “Thairath Money” ได้รวบรวมข้อมูลหุ้นไทยที่กระทรวงการคลังถือครองไว้ โดยพบว่ามีมูลค่าหลักทรัพย์รวมกว่า 1.19 ล้านล้านบาท (ณ วันที่ 21 พ.ค.67) หุ้นที่ถือมากที่สุด คือ กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ มีสัดส่วนกว่า 56.14% รองลงมาคือกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค มีสัดส่วน 41.97% กลุ่มธนาคาร 1.70% และกลุ่มอื่นๆ อีก 0.19% ดังนี้


1. บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น AOT จำนวน 10,000 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 669,999.34 ล้านบาท


2. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น PTT จำนวน 14,598.86 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 492,700.97 ล้านบาท


3. ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น TTB จำนวน 11,364.28 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 20,114.74 ล้านบาท


4. บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น THAI จำนวน 1,044.74 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 3,468.32 ล้านบาท


5. บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น DMT จำนวน 261.35 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 3,241.44 ล้านบาท


6. กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย หรือหุ้น TFFIF จำนวน 457 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 2,924.80 ล้านบาท


7. บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น OR จำนวน 153.35 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 2,764.80 ล้านบาท


8. บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น BCP จำนวน 65.54 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 2,572.51 ล้านบาท


9. บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น MCOT จำนวน 452.13 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 1,374.42 ล้านบาท


10. บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น MFC จำนวน 20 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 395.96 ล้านบาท


11. บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น BEYOND จำนวน 31.20 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 301.19 ล้านบาท


12. บริษัท โรงพยาบาลราชพฤกษ์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น RPH จำนวน 14.70 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 88.12 ล้านบาท


13. บริษัท เอ็นอีพี อสังหาริมทรัพย์ และอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น NEP จำนวน 295.85 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 56.20 ล้านบาท


อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านพ้นช่วงประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ พบว่าหุ้นที่กระทรวงการคลังถือส่วนใหญ่ รายงานกำไรสุทธิเติบโตได้ดีจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยพบว่ามีเพียง 3 บริษัทเท่านั้น ที่รายงานผลการดำเนินงานลดลง ได้แก่


หุ้น BCP รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/67 ที่ 2,436 ล้านบาท ลดลง 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 2,740 ล้านบาท ขณะที่หุ้น MCOT รายงานขาดทุนสุทธิไตรมาส 1/67 ที่ 79 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ขาดทุนสุทธิ 59 ล้านบาท และหุ้น MFC รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/67 ที่ 49.25 ล้านบาท ลดลง 12.68% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 56.41 ล้านบาท

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ