TERA หุ้นเทคฯ น้องใหม่ พุ่ง 81% โบรกฯ ชี้ Backlog แน่น ลุยธุรกิจ Cloud แต่ราคาพรีเมียมแล้ว

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

TERA หุ้นเทคฯ น้องใหม่ พุ่ง 81% โบรกฯ ชี้ Backlog แน่น ลุยธุรกิจ Cloud แต่ราคาพรีเมียมแล้ว

Date Time: 24 เม.ย. 2567 12:55 น.

Video

“The Summer Coffee Company” มากกว่า เครื่องดื่ม คือ ความสุข | Brand Story Exclusive EP.3

Summary

  • หุ้น TERA ปิดตลาดช่วงเช้าที่ 3.18 บาท พุ่ง 81.71% จากราคาจองซื้อที่ 1.75 บาท ระดมทุนลุยธุรกิจ Cloud โบรกฯ ชี้ Backlog แน่น แต่ราคาพรีเมียมแล้ว

Latest


ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัท เทอร์ราไบท์ พลัส จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น TERA เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดตลาดอยู่ที่ 3.90 บาท  เพิ่มขึ้น 2.15 บาท หรือ 122.85% จากราคาจองซื้อที่ 1.75 บาท ต่อมาในช่วงพักการซื้อขาย ปิดตลาดช่วงเช้า ราคาหุ้นอยู่ที่ 3.18 บาท เพิ่มขึ้น 1.43 บาท หรือ 81.71%


โดย บริษัท เทอร์ราไบท์ พลัส จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายอุปกรณ์ด้านไอที และให้บริการระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจร เข้าระดมทุนด้วยการเสนอขายหุ้นไอพีโอ 90 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 37.50% ของหุ้นทั้งหมด รวมมูลค่า 157.50 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจระบบคลาวด์ (Cloud) และลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน


สำนักวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุว่า TERA มีความโดดเด่นด้านการให้บริการ Cloud และความต่อเนื่องของรายได้ โดยมีจุดแข็งด้านการบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ซึ่งการเติบโตที่สำคัญมาจากการให้บริการ Local Cloud แบรนด์ T.Cloud ของบริษัทเอง และ Public Cloud ของ Microsoft และ AWS โดยเน้นการให้บริการที่ก่อให้เกิดรายได้ต่อเนื่อง (Recurring Income)


รวมทั้งเป็นเจ้าของซอฟต์แวร์แอปพลิเคชันภายใต้เครื่องหมายการค้า “Skyfrog” ระบบบริหารจัดการเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าที่ตอบโจทย์ด้านประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนการขนส่ง ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 49% ของรายได้ทั้งหมดในปี 2566


ทั้งนี้ คาดรายได้ปี 2567 เติบโตจากรายได้การให้บริการเป็นหลัก โดยเฉพาะบริการ Cloud ที่เป็นไปตามกระแสการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคดิจิทัล ทำให้อุปสงค์ในการใช้พื้นที่ Cloud เพิ่มขึ้น และคาดสัดส่วนรายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 50% ด้วยบริษัทมุ่งเน้นขยายการให้บริการ และมี Backlog รอการรับรู้สำหรับรายได้จากการให้บริการในปี 2567 อยู่ราว 171.36 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 57% ของรายได้จากการให้บริการปี 2566


พร้อมกันนี้ คาดอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากรายได้การให้บริการที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าอัตรากำไรขั้นต้นจากการขาย ประกอบกับการควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งไม่มีรายการค่าใช้จ่าย One-time สำหรับการนำบริษัทเข้าจดทะเบียน เป็นปัจจัยหนุนให้อัตรากำไรสุทธิปี 2567 ขยายตัวต่อเนื่องจากปี 2566


อย่างไรก็ดี การระดมทุนเพื่อลงทุนใน T.Cloud version ใหม่ รวมทั้งธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง และเพื่อเป็นเงินทุนในการประมูลงานโครงการในครั้งนี้ มีความเหมาะสม โดยมีปัจจัยที่ต้องติดตามต่อ ได้แก่ การให้บริการใหม่ๆ และการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อผลประกอบการในอนาคต


นอกจากนี้ ความเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่ 1) การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี 2) การแข่งขันที่สูง 3) มูลค่าและจำนวนงานที่ได้รับเพิ่มในแต่ละปี โดยการประเมินเบื้องต้น อิงจาก P/E ratio เฉลี่ยของผู้ประกอบธุรกิจใกล้เคียงกันที่ 10.90 เท่า มองว่ามูลค่าเหมาะสม ณ ราคาไอพีโอมีพรีเมียมแล้ว

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์