บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น GULF แจ้งข่าวต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า บริษัท กัลฟ์ เอ็นจิเนียริ่ง เซอร์วิสเซส จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 ได้ลงนามสัญญาหลักในการจัดหาแผงโซลาร์เซลล์ (PV Module) กับบริษัท จินโกะ โซลาร์ ไห่หนิง จํากัด เพื่อใช้ในการผลิตไฟฟ้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของกลุ่ม บริษัทฯ และบริษัทในเครือ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (Solar Farms) โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ แบบติดตั้งบนพื้นดินพร้อมระบบกักเก็บพลังงาน (Solar Farms with Battery Energy Storage Systems) และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ แบบติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftops) ซึ่งมีกําลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งรวมทั้งสิ้นประมาณ 3,500 เมกะวัตต์ โดยมีกําหนดเปิดดําเนินการ เชิงพาณิชย์ระหว่างปี 2567-2573
บริษัท จินโกะ โซลาร์ ไห่หนิง จํากัด เป็นผู้นําในธุรกิจแผงโซลาร์เซลล์ระดับสากล เป็นบริษัทย่อยของบริษัท Jinkosolar Co.,Ltd. ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ และเป็นบริษัทในเครือของบริษัท Jinkosolar Holding Co., Ltd. ซึ่งจดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์นิวยอร์ก โดยกลุ่ม Jinkosolar มีกําลังการผลิตมากที่สุดในจํานวนผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือใน ระดับสูงสุด (Tier 1) รวมทั้งมีการส่งออกแผงโซลาร์เซลล์ในปริมาณที่มากที่สุดในโลก โดยมีลูกค้ามากกว่า 190 ประเทศทั่วโลก อาทิ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และสหราชอาณาจักร เป็นต้น นอกจากนี้ แผงโซลาร์เซลล์ของกลุ่ม Jinkosolar ยังใช้เทคโนโลยีชนิด N-Type ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีก่อนหน้านี้ จึงทําให้แผงโซลาร์เซลล์ N-Type ผลิตพลังงานไฟฟ้าได้มากขึ้น
ทั้งนี้ การลงนามสัญญาหลักดังกล่าว เป็นไปตามกลยุทธ์ของบริษัทฯ ในการจัดหาแผงโซลาร์เซลล์ที่มีคุณภาพจากคู่ค้าที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับระดับสากล อีกทั้งการจัดซื้ออุปกรณ์ในปริมาณมากยังช่วยเพิ่มประโยชน์จากการประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale) อันจะส่งผลให้บริษัทฯ สามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างผลตอบแทนที่ดีขึ้นอีกด้วย
ด้าน นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า รายได้จากธุรกิจพลังงานหมุนเวียนได้แรงหนุนจากโครงการใหม่ สะท้อนจากกําลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นของโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 4,486 เมกะวัตต์ ณ สิ้นเดือน ธ.ค. 2566 หลังจากที่มีการลงนามใน PPA สําหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังนํ้าในลาวและโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยเพิ่มเติม บวกกับการเข้าซื้อโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งในสหราชอาณาจักร โครงการเหล่านี้จะทยอยเปิดดําเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2567-2576
ขณะเดียวกัน คาดว่ากําไรไตรมาส 1/67 จะปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน เมื่อความต้องการใช้ไฟฟ้าของลูกค้าอุตสาหกรรมฟื้นตัว หลังจากผ่านช่วงโลว์ซีซั่นในไตรมาส 4/66 บวกกับหน่วยผลิตไฟฟ้าอีกหนึ่งหน่วยของ Gulf PD จะเปิดดําเนินการเชิงพาณิชยในเดือน มี.ค. 2567
ทั้งนี้ ยังคงคําแนะนําซื้อ (OUTPERFORM) สําหรับ GULF โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 63 บาท เพราะกําไรมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากการมีกําลังการผลิตดําเนินงานเพิ่มเติม และส่วนแบ่งกําไรจากธุรกิจโครงสรางพื้นฐานอื่นๆ รวมถึง INTUCH และ THCOM จะเพิ่มขึ้นด้วย
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้