TTB กำไรปี 66 พุ่ง 30% รับ 1.8 หมื่นล้าน ลุยขยายฐานเงินฝาก-สินเชื่อผลตอบแทนสูง

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

TTB กำไรปี 66 พุ่ง 30% รับ 1.8 หมื่นล้าน ลุยขยายฐานเงินฝาก-สินเชื่อผลตอบแทนสูง

Date Time: 19 ม.ค. 2567 14:16 น.

Video

ล้วงไส้ TEMU อีคอมเมิร์ซจีน บุกไทย ทำไมอาจสร้างวิบากกรรมกว่าที่คิด ? | Digital Frontiers

Summary

  • ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น TTB ประกาศกำไรปี 66 ที่ 18,462 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% จากปีก่อน จากผลการดําเนินงานหลักและคุณภาพสินทรัพย์ที่ควบคุมได้ แม้ภาพรวมสินเชื่อลดลง แต่รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 11% พร้อมเปิดกลยุทธ์ปี 67 เน้น ขยายฐานเงินฝากและสินเชื่อผลตอบแทนสูง

Latest


เกาะติดการประกาศผลประกอบการแบงก์ ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น TTB รายงานผลประกอบการต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ผลประกอบการสําหรับปี 2566 มีกําไรสุทธิที่ 18,462 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% จากปีก่อน จากผลการดําเนินงานหลักและคุณภาพสินทรัพย์ที่ควบคุมได้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและปัญหาเชิงโครงสร้างของไทยที่สะสมมานาน อย่างปัญหาหนี้ครัวเรือนอาจเป็นปัจจัยฉุดรั้งการเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจ


ธนาคารทหารไทยธนชาต ตระหนักถึงความเสี่ยงนี้ จึงได้กําหนดเป้าหมายธุรกิจที่ชัดเจน โดยเน้นเติบโตบนจุดแข็งและสิ่งที่ธนาคารมีความชํานาญพร้อมทั้ง หลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่ไม่จําเป็น ทําให้ธนาคารสามารถบริหารจัดการโครงสร้างงบดุลเสริมความแข็งแกร่งในทุกองค์ประกอบและมีผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง


ในปี 2566 ปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการดําเนินตามกลยุทธ์หลัก 3 ด้าน ได้แก่ การบริหารจัดการสินทรัพย์และหนี้สิน รวมถึงสภาพคล่องอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้น การหมุนเวียนสภาพคล่อง (recycling liquidity) จากสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนต่ำไปยังสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงเพื่อผลตอบแทนที่ดีขึ้น การมีวินัยด้านค่าใช้จ่าย และการรักษาคุณภาพของสินทรัพย์ภายใต้แผนบริหารความเสี่ยงที่เข้มงวด


ทั้งนี้ เพื่อรองรับการแข่งขันด้านเงินฝากในปี 2567 ธนาคารจึงดําเนินกลยุทธ์เติบโตฐานเงินฝากในไตรมาส 4/2566 เพื่อเติมสภาพคล่อง ที่เริ่มครบกําหนดภายหลังจากการทยอยทํา pre-funding มาตั้งแต่ไตรมาส 1/2565 โดย ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2566 เงินฝากรวมอยู่ที่ 1,387 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสก่อน แต่ลดลง เล็กน้อย 1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้วยอัตราผลตอบแทนที่สูง 


ธนาคารจึงเลือกใช้บัญชีเงินฝากประจํา Up and Up เพื่อดึงลูกค้าใหม่และรักษาฐานลูกค้าปัจจุบันของบัญชีเงินฝาก No-Fixed ให้ได้รับ ผลตอบแทนที่สูงกว่า ส่งผลให้เงินฝากประจําเติบโต 91% นับตั้งแต่ต้นปี และในทางกลับกันเงินฝาก No-Fixed ลดลง 33% จากต้นปี ในส่วนของเงินฝากเชิงกลยุทธ์หลักเช่น AH-Free ยังคงสามารถเติบโต 4% จากต้นปี ตามแผนที่วางไว้ ธนาคารจะยังมุ่งมั่นบริหารจัดการฐานเงินฝากอย่างระมัดระวังพร้อมกับใช้ประโยชน์จาก Digital platform เพื่อรักษาระดับผลตอบแทนโดยรวมต่อไปในอนาคต


พร้อมกันนี้ ธนาคารทหารไทยธนชาต ยังคงขยายฐานสินเชื่ออย่างระมัดระวัง โดยเน้นสินเชื่อสําหรับเติบโต สินเชื่อที่มีคุณภาพ พร้อมทั้งหมุนเวียนสภาพคล่องที่ได้รับกลับคืนจากการปล่อยสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนต่ำ ไปปล่อยสินเชื่อรายย่อยที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า ผู้บริโภค ทั้งนี้ สินเชื่อรวม ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2566 อยู่ที่ 1,328 พันล้านบาท ลดลง 4% จากต้นปี


ในขณะที่การปรับเปลี่ยนสัดส่วนของสินเชื่อไปยังสินเชื่อรายย่อยที่ให้ผลตอบแทนสูง ดําเนินไปได้ดีตามที่วางไว้ การลดลงของสินเชื่อในไตรมาสนี้เป็นผลไปตามกลยุทธ์การนําสภาพคล่องจากสินเชื่อธุรกิจที่ผลตอบแทนต่ำกว่าไปเติบโตสินเชื่อในกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนขึ้นบน ความเสี่ยงที่เหมาะสม เป็นผลให้สินเชื่อรายย่อยผลตอบแทนสูงเติบโตได้ตามเป้า นําโดยสินเชื่อรถแลกเงิน (Cash your car) เพิ่มขึ้น 24% จากต้นปี สินเชื่อบ้านแลกเงิน (Cash your home) เติบโต 20% จากต้นปี สินเชื่อส่วนบุคคล เติบโต 21% จากต้นปี และสินเชื่อบัตรเครดิตขยายตัว 18% จากต้นปี


ทั้งนี้ เพื่อรักษาคุณภาพของพอร์ตสินเชื่อ ธนาคารจึงยังคงให้ความสําคัญกับ การเติบโตสินเชื่อ โดยเน้นฐานลูกค้าเดิมและลูกค้าที่มีประวัติการชําระเงินที่ดี รวมถึงการใช้ประโยชน์จาก Digital platform เพื่อเพิ่มผลตอบแทนรวมภายใต้กรอบความเสี่ยงที่เหมาะสม รายได้หลักมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี: ด้วยกลยุทธ์การปรับโครงสร้างงบดุลให้มีความเหมาะสม เพื่อเสริมแผนการใช้สภาพคล่องและบริหารจัดการงบดุลให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ในช่วงภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ส่งผลให้ธนาคารมีผลประกอบการที่ดีขึ้นจากรายได้ดอกเบี้ยและ NIM ที่เติบโตได้ดี โดยรายได้ดอกเบี้ยในรอบ 12 เดือน ปี 2566 เพิ่มขึ้น 11% จากปีก่อน จากผลตอบแทนบนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ที่ปรับตัวดีขึ้นแรงกดดันของฝั่งต้นทุนทางการเงิน


ด้านส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ย (NIM) ขยายตัวได้ดีเช่นกันที่ 29 bps จากปีก่อน มาอยู่ที่ 3.24% เทียบกับ 2.95% ในรอบ 12 เดือนของปีก่อน จากผลตอบแทนที่ดีขึ้นตามแผนปรับเปลี่ยนสัดส่วนของพอร์ตสินเชื่อ แผนการบริหารพอร์ตเงินลงทุน และแผน pre-funding เงินฝาก ที่ช่วยรักษาอัตรากําไรด้านดอกเบี้ย อย่างไรก็ดี ปี 2566 การเติบโตของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยยังคงมีความท้าทาย ซึ่งลดลง 3% จากปีก่อน ส่วนใหญ่มาจากการรับรู้กําไรจากการซื้อคืนตราสารหนี้ AT1 บางส่วนในปี 2565 ในส่วนของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการค่อนข้างทรงตัวเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยรายได้ค่าธรรมเนียมการให้สินเชื่อ และบัตรเครดิตยังคงเติบโตได้ดี ในขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมแบงก์แอสชัวรันส์และค่าธรรมเนียมกองทุนยังคงชะลอตัวตามสภาวะตลาดที่ไม่เอื้ออํานวย ทั้งนี้ รายได้รวมจากการดําเนินงานสําหรับ 12 เดือน ปี 2566 เพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อน มาอยู่ที่ 70,961 ล้านบาท

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ