WHART ประกาศเพิ่มทุนครั้งที่ 8 ลงทุน 3 โครงการใหม่ ชูปันผลทะลุ 8.23% โอกาสลงทุนหลังดอกเบี้ยพีกแล้ว

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

WHART ประกาศเพิ่มทุนครั้งที่ 8 ลงทุน 3 โครงการใหม่ ชูปันผลทะลุ 8.23% โอกาสลงทุนหลังดอกเบี้ยพีกแล้ว

Date Time: 20 พ.ย. 2566 14:40 น.

Video

เปิดทริกวางแผนการเงิน เพื่อชีวิตที่มีประสิทธิภาพ

Summary

  • WHART ประกาศเพิ่มทุนเพื่อลงทุน 3 โครงการพรีเมียมของ WHA มูลค่า 3.56 พันล้านบาท ชูผลตอบแทน 8.23% พร้อมตั้งเป้าลงทุนสินทรัพย์ใหม่ 3-5 พันล้านบาทต่อปี ด้าน KBANK ชี้เป็นโอกาสลงทุนกองทรัสต์ หลังแนวโน้มดอกเบี้ยพ้นจุดสูงสุดแล้ว

Latest


บริษัท ดับบลิวเอชเอ เรียล เอสเตท แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (กองทรัสต์ WHART) ประกาศเพิ่มทุนเข้าลงทุนในทรัพย์สินระดับพรีเมี่ยมของกลุ่ม WHA Group มูลค่าไม่เกิน 3,566.49 ล้านบาท ดันมูลค่าทรัพย์สินรวมแตะ 55,000 ล้านบาท ชูอัตราจ่ายประโยชน์ตอบแทนกว่า 8.23%


เดินหน้าเพิ่มทุน ลงทุน 3 โครงการใหม่ 3.56 พันล้านบาท


อนุวัฒน์ จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ เรียล เอสเตท แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (กองทรัสต์ WHART) เปิดเผยว่า กองทรัสต์ WHART ประกาศเดินหน้าเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 195.90 ล้านหน่วย เพื่อลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมในปี 2566 มูลค่าไม่เกิน 3,566.49 ล้านบาท ทั้งนี้ภายหลังการลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินครั้งนี้ จะส่งผลให้กองทรัสต์ WHART มีมูลค่าทรัพย์สินรวมแตะ 55,000 ล้านบาท ถือเป็นกองทรัสต์ประเภทอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าทรัพย์สินรวมมากที่สุดในประเทศ โดยมีพื้นที่เช่าภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 1.89 ล้านตารางเมตร พื้นที่เช่าหลังคา 487,243.29 ตารางเมตร


การเพิ่มทุนครั้งนี้ เป็นการลงทุนในอาคารคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และอาคารโรงงาน ที่พัฒนาขึ้นตามความต้องการของลูกค้า (Built-to-Suit) และแบบสำเร็จรูป (General Warehouse)  สำหรับทรัพย์สินที่กองทรัสต์ WHART จะเข้าลงทุนในครั้งนี้ จำนวน 3 โครงการ ประกอบด้วย 1. โครงการดับบลิวเอชเอ เมกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ เทพารักษ์ กม. 21 เป็นคลังสินค้า รูปแบบ Built-to-Suit และ General Warehouse พื้นที่เช่า 90,862 ตารางเมตร 2. โครงการดับบลิวเอชเอ เมกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ แหลมฉบัง โปรเจกต์ 1 เป็นคลังสินค้า รูปแบบ General Warehouse พื้นที่เช่า 24,310 ตารางเมตร และโครงการดับบลิวเอชเอ เมกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ บางนา-ตราด กม.23 โปรเจก์ 3 เป็นคลังสินค้า และโรงงานแบบ General Warehouse พื้นที่เช่า 27,724 ตารางเมตร


ความโดดเด่นการเพิ่มทุนในครั้งนี้ ได้แก่ตัวของทรัพย์สินเอง ซึ่งทั้ง 3 โครงการที่เข้าลงทุน ถือเป็นโครงการที่มีคุณภาพ ตั้งอยู่ในทำเลโลจิสติกส์ที่สำคัญ อย่างบางนา-ตราดและ EEC อีกทั้งยังมีกลุ่มผู้เช่าที่มาจากกลุ่มธุรกิจที่มีความมั่นคงอย่างกลุ่มผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ (Third Party Logistics) และกลุ่มผู้ผลิต (Manufacturer) 

ซึ่งการได้ผู้เช่าที่ดีในกลุ่มอุตสาหกรรม ส่งผลให้กองทรัสต์ WHART มีการรับรู้รายได้จากการลงทุนที่มั่นคง และสร้างประโยชน์ตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์


ทั้งนี้ การที่กองทรัสต์ WHART มีการขยายขนาดกองทรัสต์จากการลงทุนเพิ่มเติมในทุกปี ปีละประมาณ 3,000-5,000 ล้านบาท ส่งผลให้กองทรัสต์ฯ มีความมั่นคงทางรายได้ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงยังกระจายความเสี่ยง ไม่ว่าจะในด้านของทำเลทรัพย์สินที่ลงทุน สัญชาติของผู้เช่า รวมถึงความหลากหลายของกลุ่มธุรกิจของผู้เช่า (Business Sector) ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ช่วยทำให้ภาพรวมผลประกอบการของกองทรัสต์ WHART อยู่ในระดับที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง


“จรีพร” ย้ำอุตสาหกรรมโตต่อเนื่อง-ผลตอบแทนน่าสนใจ


ด้าน จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น WHA เปิดเผยในฐานะเจ้าของทรัพย์สิน (Sponsor) และผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ว่า สำหรับการเพิ่มทุนในครั้งนี้ มองว่าเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุน จากการกำหนดราคาเสนอขายหน่วยลงทุน ร่วมกับธนาคารกสิกรไทย ได้ใช้ราคาอ้างอิงตามราคาตลาดในช่วงที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลงไป แต่ปัจจุบันราคาปรับตัวขึ้นมาแล้ว จึงทำให้มีราคาเสนอขายและผลตอบแทนการลงทุนที่น่าสนใจ และโดยปกติกองทรัสต์ WHART มีการจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอราว 0.70 บาท


ที่ผ่านมากองทรัสต์ WHART มีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง มีทรัพย์สินภายใต้บริหารจัดการกว่า 1.74 ล้านตารางเมตร สอดคล้องกับนโยบายของ WHA Group ที่ยังคงเป็นผู้สนับสนุนหลัก ในการนำทรัพย์สินคุณภาพระดับพรีเมี่ยมเข้ากองทรัสต์ WHART ทุกปีต่อเนื่อง


อย่างไรก็ตาม ภาพรวมอุตสาหกรรมโลจิสติกส์มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากกระแสการย้ายฐานการลงทุนและฐานการผลิตมายังประเทศไทย ส่งผลให้ความต้องการใช้ที่ดินอุตสาหกรรมของนักลงทุนชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สอดคล้องนโยบายภาครัฐบาลที่ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการลงทุนจากทั่วโลก โดยกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ จะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมแรกๆ ที่เพิ่มมูลค่าการลงทุนให้กับประเทศ ยิ่งไปกว่านั้นประเทศไทยมีศักยภาพและความพร้อมที่จะก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยุคใหม่ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นอกเหนือจากการเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ครบวงจรชั้นนำของโลก          


กสิกรไทย ชี้โอกาสลงทุนกองทรัสต์ ผลตอบแทน 8.23%


สาวิตร ศรีศรันยพงศ์ ผู้บริหารกลุ่มธุรกิจวาณิชธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ WHART เปิดเผยว่า สถานการณ์ลงทุนปัจจุบันถือว่าเป็นจังหวะและโอกาสในการลงทุนในกองทรัสต์ (REIT) เนื่องจาก ปัจจุบันมีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะหยุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายแล้ว ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อการลงทุนในกอง REIT โดยทางธนาคารมีความเห็นว่าสินทรัพย์ประเภทกอง REIT เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่แนะนำลงทุน ด้วยคุณสมบัติสินทรัพย์ที่มีโอกาสรับผลตอบแทนจากเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการเลือกลงทุนในกองทรัสต์ที่ลงทุนในทรัพย์สินที่มีความมั่นคงจากรายได้ค่าเช่า และมีความต่อเนื่องและเติบโตของทรัพย์สินในระยะยาว 


ด้าน จิตติสา เจริญพานิช ผู้บริหารงานวาณิชธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ WHART เปิดเผยว่า กองทรัสต์ WHART เป็นกองทรัสต์ที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงที่สุดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท และยังเป็นผู้นำกองทรัสต์ในกลุ่มคลังสินค้าและอุตสาหกรรม มีศักยภาพในการเติบโตด้วยทรัพย์สินที่แข็งแกร่ง สามารถจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์อย่างสม่ำเสมอตั้งแต่ก่อตั้งกองทรัสต์ มีเครดิตเรตติ้งที่ดี และที่สำคัญคือมี WHA Group เป็นเจ้าของทรัพย์สินและผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งการันตีถึงคุณภาพของทรัพย์สินได้เป็นอย่างดี


ภายหลังจากการเข้าลงทุนในทรัพย์สินหลักเพิ่มเติมในครั้งนี้ กองทรัสต์ WHART ได้ประมาณการจ่ายประโยชน์ตอบแทนต่อหน่วยแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์เท่ากับ 0.79 บาทต่อหน่วย สำหรับรอบประมาณการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2567 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2567 หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายประโยชน์ตอบแทนประมาณร้อยละ 8.23* (ขึ้นอยู่กับราคาเสนอขายสุดท้าย) 


สำหรับการเพิ่มทุนของกองทรัสต์ WHART ครั้งนี้ ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมมีสิทธิสามารถจองซื้อได้ในวันที่ 1, 4 และระหว่างวันที่ 6 ถึง 8 ธ.ค. 2566 ที่ราคาสูงสุดที่ 9.60 บาทต่อหน่วย ทั้งนี้หากราคาเสนอขายสุดท้ายต่ำกว่าราคาสูงสุดจะทำการคืนเงินส่วนต่างราคาให้กับผู้จองซื้อ โดยนักลงทุนที่สนใจสามารถจองซื้อได้ผ่านเว็บไซต์ K-My Invest (www.kasikornbank.com/kmyinvest) และสาขาของ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ส่วนประชาชนทั่วไปสามารถจองซื้อในวันที่ 13 ถึง 15 และวันที่ 18 ธ.ค. 2566 โดยจะทำการชำระเงินจองซื้อที่ราคาสุดท้าย โดยนักลงทุนที่สนใจสามารถจองซื้อได้ผ่าน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์