บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น DELTA แจ้งผลประกอบการไตรมาสที่ 3/66 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสน้ี มีจำนวน 5,047 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรร้อยละ 12.5 เพิ่มข้ึนจากร้อยละ 12.0 ของงวดเดียวกันในปีก่อน เนื่องจากความสามารถในการทำกำไรที่ดีข้ึนของยอดขายในกลุ่มสินค้าที่เติบโตสูง
ขณะที่กำไรสุทธิในไตรมาสน้ีสร้างสถิติสูงกว่า 5,429 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 13.4 และมีกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 0.44 บาท เติบโตถึงร้อยละ 33.7 เมื่อเทียบกับ 0.33 บาทต่อหุ้น ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ขณะเดียวกัน ยอดขายสินค้าและบริการในไตรมาสน้ีอยู่ที่ 40,478 ล้านบาท เพิ่มข้ึนร้อยละ 29.2 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากกลุ่มผลิตภัณฑ์พาวเวอร์อิเล็กทรอนิกส์รักษาระดับการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ขับเคลื่อนโดยกลุ่มโซลูชันสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle Solutions) ที่เติบโตสูงกว่าเท่าตัวจากปีก่อนหน้า รวมถึงผลิตภัณฑ์ดีซี พาวเวอร์ (DC Power) และพาวเวอร์ซัพพลาย สำหรับระบบอัตโนมัติอุตสาหกรรม (Industrial Automation)
ด้านกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่าย รวมถึงศูนย์ข้อมูล Data Center มียอดขายทรงตัวจากไตรมาสก่อน และเติบโตในระดับปานกลางจากฐานสูงของปีที่แล้ว โดยมีการขยายตัวตามแนวโน้มความต้องการเพิ่มข้ึนของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence Application)
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการค้าและการลงทุน รวมถึงอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวลดลงในภูมิภาคต่างๆ ส่งผลกระทบต่อยอดขายที่ชะลอตัวลงสำหรับสินค้าบางกลุ่ม เช่น กลุ่มพัดลมและระบบจัดการความร้อน (Fan & Thermal Management) กลุ่มผลิตภัณฑ์โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ปรับตัวลดลงจากไตรมาสที่แล้วและปีก่อน เนื่องจากดีมานด์อ่อนตัวในตลาดยุโรป ทำให้ลูกค้าเพิ่มความระมัดระวังและปรับแผนงานสำหรับโครงการต่างๆ พร้อมมุ่งเน้นการบริหารสินค้าคงคลัง ให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดที่มีความท้าทาย