SCL ลุยไฟเคาะไอพีโอ 1.54 บาท พร้อมเทรดแม้หุ้นจ่อหลุด 1,400 จุด  ชูจุดเด่นโตทุกสภาพเศรษฐกิจ

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

SCL ลุยไฟเคาะไอพีโอ 1.54 บาท พร้อมเทรดแม้หุ้นจ่อหลุด 1,400 จุด ชูจุดเด่นโตทุกสภาพเศรษฐกิจ

Date Time: 20 ต.ค. 2566 14:46 น.

Video

“The Summer Coffee Company” มากกว่า เครื่องดื่ม คือ ความสุข | Brand Story Exclusive EP.3

Summary

  • บริษัท เอส.ซี.แอล.มอเตอร์ พาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น SCL หนึ่งในผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ของประเทศไทย ประกาศเดินหน้าเสนอขายไอพีโอ กำหนดราคาเสนอขายที่ 1.54 บาทต่อหุ้น ท่ามกลางสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันอยู่ในภาวะผันผวน จากแรงกดดันจากปัจจัยต่างประเทศ ทำดัชนีจ่อหลุด 1,400 จุด

Latest


สถานการณ์ตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันอยู่ในภาวะผันผวน จากแรงกดดันจากปัจจัยต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ และความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส อาจส่งผลทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในการลงทุน


อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงให้ความสนใจหุ้นไอพีโอเป็นอย่างมาก จะเห็นได้ว่าในช่วงที่ผ่านมา มีบริษัทหลายแห่งต่างออกเสนอขายหุ้นสามัญเป็นครั้งแรกให้แก่ประชาชนทั่วไป (ไอพีโอ) และเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ทั้ง SET และ mai อย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนในช่วงของการจองซื้อ


ล่าสุด บริษัท เอส.ซี.แอล.มอเตอร์ พาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น SCL หนึ่งในผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ของประเทศไทย ประกาศเดินหน้าเสนอขายไอพีโอ กำหนดราคาเสนอขายที่ 1.54 บาทต่อหุ้น เตรียมเปิดให้นักลงทุนจองซื้อ 25-27 ตุลาคม 2566 และจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้ภายใน 1 พฤศจิกายนนี้ โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย (Lead-Underwriter) 


สมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวว่า แม้ตลาดหุ้นไทยในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา จะอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความกังวลในแง่ภาพรวมตลาดหุ้นไทย แต่อย่างไรก็ตาม ในแง่ของหุ้นไอพีโอนั้น มองว่าในช่วงที่ผ่านมา ยังมีบริษัทจดทะเบียนจำนวนมาก ทยอยนำเสนอขายหุ้นไอพีโอให้นักลงทุนได้เข้าจองซื้อ ซึ่งความเชื่อมั่นมองว่าเป็นเรื่องของจิตวิทยาการลงทุน และปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจะทำให้นักลงทุนมีความเข้าใจในแง่มุมการลงทุน


ขณะเดียวกัน มองว่าหุ้นไอพีโอ ยังเป็นหุ้นที่นักลงทุนให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าหุ้นของ บริษัท เอส.ซี.แอล.มอเตอร์ พาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น SCL นั้น จะเป็นทางเลือกหนึ่งในการลงทุนให้กับนักลงทุน


ทั้งนี้ การกำหนดจำนวนหุ้นในการเสนอขายและราคาเสนอขาย ได้มองเผื่อไปยังทุกปัจจัยเสี่ยง เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน เชื่อว่าจะทำให้นักลงทุนที่เข้ามาจองซื้อมีความมั่นใจ และคาดหวังว่าในวันที่นำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นวันแรก (1st Day Trade) ทุกคนที่ได้รับการจัดสรรหุ้นจะมีแต่ความสุขและรอยยิ้ม


สำหรับราคาหุ้นสามัญที่เสนอขายหุ้นละ 1.54 บาท ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) ที่ประมาณ 13.45 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลการดำเนินงานในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด ขณะที่ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นว่า บริษัทสามารถมีการเติบโตของรายได้ราว 8-10% ต่อปี ในทุกภาวะเศรษฐกิจ แม้เผชิญวิกฤติต่างๆ เช่น การแพร่ระบาดของโควิด-19


นอกจากนี้ มั่นใจว่าภายหลังเสนอขายหุ้นไอพีโอและเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการขยายธุรกิจ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายครอบคลุมทุกชิ้นส่วนของรถยนต์ทั้งที่เป็นชิ้นส่วนอะไหล่ของค่ายรถยนต์ต่างๆ ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยอย่างครบถ้วน รวมถึงอะไหล่รถยนต์ทดแทนที่ได้มาตรฐานของผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ที่ได้รับการยอมรับ


ด้าน สกล ตั้งก่อสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอส.ซี.แอล.มอเตอร์ พาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SCL เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายการเติบโต การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในครั้งนี้ จึงเป็นหมุดหมายที่สำคัญที่จะช่วยสร้างการเติบโตและเสริมความแข็งแกร่งด้านฐานะการเงิน ในการก้าวเป็นผู้นำด้านการจัดจำหน่ายอะไหล่ยานยนต์ที่ได้มาตรฐานอย่างครบวงจร โดยเงินระดมทุนที่ได้จำนวนประมาณ 107.80 ล้านบาท จะนำไปใช้ชำระคืนเงินกู้ยืม จำนวน 50 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานเพื่อช่วยเสริมสร้างการเติบโต 


สำหรับโครงการในอนาคตของ SCL เตรียมก่อสร้างคลังสินค้าแห่งใหม่พื้นที่คลังสินค้าประมาณ 2,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับการจัดเก็บสินค้าได้เพิ่มขึ้น 50% โดยคาดว่าการก่อสร้างคลังสินค้าแห่งใหม่จะเริ่มในปี 2567-2568 และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2568-2569 ช่วยสนับสนุนการให้บริการลูกค้าที่สะดวกและรวดเร็วขึ้น รวมถึงรองรับการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคต

 

ทั้งนี้ SCL เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ครบวงจร สำหรับตลาดผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์เพื่อการทดแทน (Replacement Equipment Manufacturer: REM) มีผลิตภัณฑ์อะไหล่ มากกว่า 167,000 รายการ ครอบคลุมหลากหลายค่ายรถยนต์ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเป็นผู้จัดจำหน่ายอะไหล่ทดแทนที่ได้มาตรฐานของผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ที่ได้รับการยอมรับ พร้อมตอบโจทย์ลูกค้าทั่วประเทศ ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากกว่า 1,600 ราย 


นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังวางกลยุทธ์ มุ่งมั่นในการสรรหาผลิตภัณฑ์และบริการที่ทันสมัยที่เหมาะสมกับอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างต่อเนื่อง โดยการมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ทดแทนมากยิ่งขึ้น รวมถึงการขยายช่องทางออนไลน์ ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูง สอดรับเทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิทัล และเพื่อต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ บริษัทฯ ได้ขยายขอบเขตของกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่จัดจำหน่ายไปยังชิ้นส่วนอะไหล่ของยานพาหนะชนิดอื่น และล่าสุดได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว (Sole Distributor) อะไหล่รถเพื่อการเกษตรของ CLASS ในประเทศไทย และยังไม่หยุดนิ่งในการขยายฐานลูกค้าเพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค 


ในด้านภาพรวมผลประกอบการ 3 ปีที่ผ่านมา (ในปี 2563 – 2565) SCL มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 1,224.27 ล้านบาท 1,256.85 ล้านบาท และ 1,352.61 ล้านบาท ตามลำดับ มีกำไรสุทธิ 22.03 ล้านบาท 27.32 ล้านบาท  และ 39.91 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ ผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 2566 มีรายได้จากการขาย 738.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.91% จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิ 11.78 ล้านบาท


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์