ทิสโก้ ประกาศกำไรวันนี้ คาด Q3 ทะลุ 1.8 พันล้าน ผลดอกเบี้ยขึ้น ลุ้นปันผลทั้งปี 8%

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ทิสโก้ ประกาศกำไรวันนี้ คาด Q3 ทะลุ 1.8 พันล้าน ผลดอกเบี้ยขึ้น ลุ้นปันผลทั้งปี 8%

Date Time: 11 ต.ค. 2566 10:59 น.

Video

บรรยง พงษ์พานิช แกะปมเศรษฐกิจไทยโตต่ำ ฟื้นช้า พร้อมแนะทางออก

Summary

  • เริ่มต้นประกาศกำไรไตรมาสที่ 3 แล้วสำหรับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยในกลุ่มแรกที่มักจะเริ่มต้น คือ กลุ่มธนาคาร โดยได้รับผลดีจากระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในธนาคารแห่งแรกที่คาดว่าจะประกาศผลการดำเนินงานในวันนี้ คือ บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO โดยนักวิเคราะห์มองว่า กำไรในไตรมาสที่ 3 จะมากกว่า 1.8 พันล้านบาท จากอัตราดอกเบี้ยที่ยังเป็นขาขึ้น

Latest


บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินว่า ผลการดำเนินงานของ TISCO จะรายงานกําไรไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ในวันนี้ เราคาดที่ 1.86 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.4% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อน โดยในส่วนกําไรสุทธิ และกําไรจากการดําเนินงานก่อนการตั้งสํารอง (PPOP) คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 7% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 9% จากปีก่อน หนุนจากสินเชื่อที่เติบโต โดยเฉพาะรายย่อยที่เป็น High Yield

 

ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) คาดทรงตัวจากไตรมาสก่อนที่ 5.02% แต่ชะลอลงจากปีก่อนจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น ด้าน NPL และ Credit Cost คาดยังขยับตัวขึ้น เราคาดกําไรปกติปี 2566 จะเพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อน และปี 2567 จะเพิ่มขึ้น 6% และคาดจ่ายเงินปันผลในอัตรา 8% ยังเป็นหุ้นปันผลที่น่าสนใจ ราคาเป้าหมาย 111 บาท แนะนํา “ซื้อ”

 

 

นักวิเคราะหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอ เอส แอล เปิดเผยว่า บริษัทประเมินกําไรสุทธิของ TISCO ในไตรมาส 3 ที่ 1.8 พันล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน 2.5% และลดลงจากปีก่อน 2.1% ผลจากการตั้งสํารองที่อยู่ในระดับต่ำ คิดเป็น credit cost เพียง 20 bps ทั้งนี้ด้านรายได้ดอกเบี้ยทรงตัวจากไตรมาสก่อน แต่ดีขึ้น 6.5% จากปีก่อน ตาม NIM ที่เพิ่มขึ้นเป็น 5.1% ตามการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นที่ทําให้ทั้ง Yield on loan เพิ่มขึ้น และการขยายตัวของสินเชื่อ high yield “สมหวัง เงินสั่งได้” ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมคาดว่าจะดีขึ้นจากไตรมาสก่อน ตามธุรกิจนายหน้าประกันภัยที่ดีขึ้น และ loan related fee ส่วนหดตัว YoY มาจากธุรกิจตลาดทุนที่ตลาดมีความผันผวน แนะนํา “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมายสิ้นปี 24F ที่ 108.25 บาท

 

ทั้งนี้คาดว่ารายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย หรือ NII ที่ 3.43 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 0.3% เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6.5% ดีขึ้นจาก NIM ที่ปรับตัวดีขึ้นเป็น 5.1% จากไตรมาสก่อนที่ 5.02% ตามการขยายตัวของสินเชื่อ high yield สมหวังเงินสั่งได้ ทั้งนี้คาดการณ์สินเชื่อสิ้นงวดขยายตัว 1.0% จากไตรมาสก่อน และขยายตัวจากปีก่อน 9.2% และ เพิ่มขึ้น 9.2% จากต้นปี ขยายตัวทั้งสินเชื่อธุรกิจ และสินเชื่อจํานําทะเบียน โดยเฉพาะกลุ่ม EV เนื่องจาก TISCO มีระดับของ penetration rate ของรถ EV ค่อนข้างสูง

คาด Fee income เท่ากับ 1.21 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 5.2% จากไตรมาสก่อน แต่ลดลง 4.4% จากปีก่อน โดยดีขึ้นจากไตมาสก่อน จาก loan related fee และธุรกิจนายหน้าประกันภัยที่เติบโตตามสินเชื่อ แต่ทั้งนี้รายได้จากธุรกิจตลาดทุนจะมาหักล้างตามตลาดที่ผันผวน ส่วนลดลงจากปีก่อน ตามธุรกิจตลาดทุนที่ลดลง

 

ส่วนค่าใช้จ่ายการดําเนินงานอยู่ที่ 2.38 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.1%จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 10.4% จากปีก่อน เพิ่มขึ้นตามการเปิดสาขาสมหวังอีกอย่างน้อย 50 สาขา รวมถึงค่าใช้จ่ายพนักงาน และด้าน IT ที่สูงขึ้น ส่งผลให้ Cost to income ratio ทรงตัวจากไตรมาสก่อนที่ระดับ 50% และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนที่ 48%

และคาดค่าใช้จ่ายการตั้งสํารองที่ 120 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 90.2% และเพิ่มขึ้น 1.2% จากปีก่อน เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากฐานที่ต่ำ และเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากมีการตั้งสํารองล่วงหน้ามาพอสมควรแล้ว ทั้งนี้คิดเป็น credit cost ที่ 20 bps อย่างไรก็ดี คุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอลงตามกําลังซื้อของลูกหนี้สินเชื่อ HP ที่ลดลง ประเมิน NPLs ratio เพิ่มเป็น 2.3% จากไตรมาสก่อนที่ 2.2% และ Coverage ratio ยังอยู่ในระดับสูงที่ 217% เทียบกับไตรมาสที่ 2 ที่ 224%

 

อย่างไรก็ตาม บล.แนะนํา ซื้อ ที่ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ที่ 108.25 บาท อิง PB/V 1.8 เท่า ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี มี highlight เด่นในแง่ของการกลับมาเติบโตของสินเชื่อ, มี Coverage ratio สูงเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม, ประสิทธิภาพในการสร้างผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นสูงสุดในกลุ่มกว่า 17% และ Div. Yield ที่สูงกว่า 8% p.a. และเปลี่ยนนโยบายการจ่ายปันผลเป็น 2 ครั้งต่อปี.

 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ