แสนสิริ แจง เศรษฐา ไม่เกี่ยวซื้อขายที่ดิน ยันทำธุรกรรมโปร่งใส นักวิเคราะห์ชี้พื้นฐานยังแกร่ง

บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI ต้องเผชิญมรสุมใหญ่ หลัง ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ กล่าวหาในช่วงหลายวันที่ผ่านมาว่า บริษัทมีส่วนร่วมในการหลีกเลี่ยงภาษีในการซื้อขายที่ดินของบริษัท และต่อมา ชูวิทย์ ได้เปิดแถลงข่าวในเรื่องดังกล่าวเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 3 สิงหาคม 2566 ทำราคาหุ้นของ SIRI เมื่อวานนี้ ปิดที่ 1.85 บาท ปรับตัวลดลงไปกว่า 6.57% จากวันก่อนหน้า

ขณะที่ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นของ SIRI ช่วงเปิดตลาดวันนี้ เคลื่อนไหวผันผวนทั้งแดนบวกและลบ โดยราคาหุ้นเคลื่อนไหวสูงสุด 1.87 บาท หรือเพิ่มขึ้น 1.08% ก่อนร่วงทำจุดต่ำสุด 1.80 บาท หรือลดลง 2.70%

ล่าสุด บมจ.แสนสิริ ออกคำแถลงการณ์ชี้แจง กรณีข่าวที่ปรากฏในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับการซื้อที่ดิน โดยมีรายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่ ส่งมาด้วยแนบท้ายหนังสือนี้เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับข่าวที่มีผู้กล่าวหาในช่วงหลายวันที่ผ่านมาว่า บริษัทมีส่วนร่วมในการ หลีกเลี่ยงภาษีในการซื้อขายที่ดินของบริษัท และต่อมามีการเปิดแถลงข่าวในเรื่องดังกล่าวเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 3 สิงหาคม 2566

ทั้งนี้ เพื่อมิให้เกิดความสับสนต่อสาธารณชนในข้อมูลที่มีผู้นำเสนอเกี่ยวกับการประชุมคณะกรรมการ บริษัทเพื่อพิจารณาอนุมัติการซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวตามที่มีการกล่าวอ้างในข่าว ดังนั้น บริษัทจึงขอชี้แจงเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทได้พิจารณาและมีมติอนุมัติการซื้อที่ดินดังกล่าวทั้งแปลง โดยมีการแยกราคาตาม ส่วนกรรมสิทธิ์ของผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินแปลงดังกล่าวตามที่ผู้ขายแจ้งความประสงค์ ซึ่งกรณีนี้เป็นการลงมติอนุมัติ เป็นมติที่ประชุมเพียงมติเดียว อย่างไรก็ดี ในการนำสำเนารายงานการประชุมไปใช้ในการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์นั้น โดยแนวปฏิบัติตามปกติ บริษัทจัดพิมพ์เป็นรายงานการประชุมฉบับคัดย่อ โดยคัดข้อความเฉพาะวาระที่ เกี่ยวข้องเพื่อนำไปใช้ประกอบการจดทะเบียนโอนในครั้งนั้นๆ เท่านั้น

พร้อมชี้แจงประเด็นข่าวพาดพิงถึง เศรษฐา ทวีสิน ว่าเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเป็น ผู้บริหารสูงสุดและกรรมการของ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) มีส่วนร่วมเฉพาะในขั้นตอนการอนุมัติจัดซื้อที่ดิน โดยพิจารณาจากตัวเลข และข้อมูลที่ทีมสรรหาที่ดินของแสนสิริ ได้จัดทำและนำเสนอ ให้ที่ประชุมผู้บริหารเพื่อพิจารณาและนำเสนอคณะกรรมการของบริษัทเพื่ออนุมัติการซื้อที่ดินและการลงทุนตามลำดับ คุณเศรษฐา ในฐานะที่เป็นผู้บริหารสูงสุดและกรรมการของแสนสิริ จึงอนุมัติเพียงแค่ราคาและมูลค่าเงินลงทุนเท่านั้น ส่วนการทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน การชำระราคา และการโอนกรรมสิทธิ์จะเป็นหน้าที่ของทีมสรรหาที่ดินที่จะเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดการและประสานงานทั้งหมด

คุณเศรษฐา ได้ปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลรักษาผลประโยชน์ของบริษัทครบถ้วนแล้ว และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องและรับรู้ขั้นตอนวิธีการในการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน เพราะเป็นกระบวนการที่อยู่ในความรับผิดชอบของทีมสรรหาที่ดินที่เป็นฝ่ายปฎิบัติ และขอยืนยันว่าได้ดำเนินการตามหลักธรรมาภิบาลถูกต้องตามกฎหมาย โปร่งใส และตรวจสอบได้

ด้าน ภูวดล ภูสอดเงิน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับประเด็นข่าวดังกล่าว มองว่าเป็น Sentiment เชิงลบในแง่การลงทุนที่กดดันราคาหุ้นเท่านั้น ซึ่งโดยทั่วไปบริษัทส่วนใหญ่มีทีมกฎหมายเป็นที่ปรึกษาและดำเนินการเรื่องสัญญาและขั้นตอนต่างๆ อยู่แล้ว ขณะที่ในเชิงปัจจัยพื้นฐาน โดยเฉพาะผลประกอบการของบริษัทยังคงแข็งแกร่ง

ทั้งนี้ ประเมินแนวโน้มผลประกอบการทั้งปี โดยเฉพาะไตรมาสที่ 2-3 คาดว่าจะออกมาดี จากโครงการระดับบนสามารถสร้างยอดขายและยอดโอนได้ต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดยในกลุ่มอสังหาฯ ที่เราให้คำแนะนำ SIRI จะโดดเด่นในไตรมาส 2/66 โดยรายงานกำไรสุทธิที่ 1.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 78% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสก่อนหน้า

ด้านบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จํากัด ระบุว่า คาดกําไรสุทธิในไตรมาส 2/66 ที่ 1.61 พันล้านบาท หากไม่รวมกําไรพิเศษขายที่ดินให้กับบริษัทร่วมทุน (JV) 400 ล้านบาท ประเมินกําไรปกติ 1.21 พันล้านบาท เติบโต 40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 12% จากไตรมาสก่อนหน้า จากการโอนต่อเนื่องของแนวราบกลุ่มบ้านเดี่ยวระดับบน และคอนโดมิเนียม ทั้งรูปแบบของบริษัทเอง และ JV หนุนต่อยอดโอนฯ และส่วนแบ่งกําไรมากขึ้น

ทั้งนี้ คงแนะนํา “OUTPERFORM” ที่ราคาเป้าหมาย 2.32 บาท จากผลประกอบการไตรมาส 2/66 เด่นสุดในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ประกอบกับทิศทางในช่วงครึ่งปีหลังคาดสูงขึ้นจากครึ่งปีแรก ตามแผนเปิดโครงการใหม่จํานวนมาก เน้นบ้านเดี่ยวระดับบน รวมถึงเตรียมเปิดขายคอนโดมิเนียม พร้อมอยู่ 1 โครงการที่สามารถขายและรับรู้รายได้ปลายไตรมาส 3/66 ขณะที่กําไรปกติปีนี้คาดทําสถิติใหม่สูงสุด และมีโอกาสเปิดอัพไซด์จากคาดการณ์ที่ 4.5 พันล้านบาท นอกจากนี้ยังโดดเด่นเรื่องเงินปันผล โดยคาดปันผลระหว่างกาลครึ่งปีแรกเฉลี่ย 4%