ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KCG ในการซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ราคาเปิดตลาดที่ 8.55 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท (+0.59%) จากราคาเสนอขายไอพีโอที่ 8.50 บาท ก่อนปิดการซื้อขายช่วงเช้าที่ 8.45 บาท ลดลง 0.05 บาท (-0.59%) ท่ามกลางความผันผวนของภาวะตลาดหุ้นไทย
ดร.วาทิต ตมะวิโมกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KCG กล่าวว่า ราคาเปิดวันนี้สะท้อนความไว้วางใจของนักลงทุน ซึ่งบริษัทเปิดเผยข้อมูลไปในช่วงไฟลิ่งทั้งหมดนั้น นักลงทุนได้วิเคราะห์และใช้วิจารณญาณเพื่อพิจารณาการลงทุน
ขณะเดียวกัน อยากฝากถึงนักลงทุนว่า บริษัทจะต้องดำเนินการทุกวิถีทาง ให้สามารถบรรลุเป้าหมาย และสิ่งที่ได้ให้คำสัญญากับนักลงทุนไว้ แม้จะมีปัญหาและอุปสรรคต่างๆ เพราะบริษัทมีความคล่องแคล่วและยืดหยุ่น (Dynamic) ในการปรับเปลี่ยนตัวเองตลอดเวลา
ทั้งนี้ แนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติบโตได้ จากปัจจัยภายนอกน่าจะฟื้นตัวในทิศทางที่ดี ประกอบกับในช่วงครึ่งหลังของปีจะเป็น High Season ของบริษัท โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 4 เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาล เพราะฉะนั้น เชื่อว่ารายได้ของบริษัทปีนี้มีโอกาสสามารถเติบโตตามแผนได้ ไม่ต่ำกว่าระดับ 10% (2 digit growth)
พร้อมกันนี้ บริษัทมีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในช่วงครึ่งปีหลังต่อเนื่อง โดยปกติบริษัทจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่เฉลี่ย 10-15 ผลิตภัณฑ์ต่อปี โดยจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ และมีแผนปรับเปลี่ยนขนาดของผลิตภัณฑ์เดิม เพื่อให้เกิดราคาที่เหมาะสมด้วย
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนขยายสัดส่วนรายได้ในต่างประเทศ โดยเน้นทำการตลาดแบบ B2B ในประเทศที่มีการบริโภคชีสและเนยเยอะ และมีประชากรจำนวนมาก เช่น อินโดนีเซีย อินเดีย และจีน ซึ่งจะส่งผลให้สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศในปีนี้จะเติบโตกว่าปีก่อน ปัจจุบันบริษัทมีการส่งออกแล้วกว่า 17 ประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภูมิภาคอาเซียน
ดร. วาทิต กล่าวอีกว่า หลังจากนี้บริษัทมีแผนเข้าร่วมงาน Opportunity Day ที่ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจัดขึ้น และให้ข้อมูลกับนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เพื่อเป็นการสื่อสารข้อมูลของบริษัทให้มากขึ้น
ด้าน พิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย กล่าวเสริมว่า KCG ตระหนักดีว่า การให้ข้อมูลกับนักลงทุนเป็นเรื่องสำคัญ และได้คุยกับทางผู้บริหารแล้วว่าจะมีการให้ข้อมูลอย่างต่อเนื่อง
ส่วนราคาหุ้นในการเปิดการซื้อขายวันแรกนั้น มองว่า อย่างที่ทราบกันดีว่าในช่วงภาวะตลาดหุ้นไทยขณะนี้มีความผันผวน มีบริษัทที่ชะลอการเข้าไอพีโอเป็นจำนวนมาก แต่บริษัทมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ทำให้เราไม่ได้ดีเลย์ออกไป
ดังนั้น ราคาหุ้นที่สะท้อนปัจจัยพื้นฐาน ต้องค่อยๆ ดู ซึ่งช่วงเปิดตลาดอาจไม่ค่อยหวือหวานัก แต่จะสังเกตได้ว่าราคาหุ้นค่อยๆ ขยับขึ้นมา แสดงให้เห็นว่านักลงทุนให้ความสนใจ และเข้าใจในธุรกิจของ KCG เป็นอย่างดี