สภาดิจิทัล นักลงทุน สตาร์ตอัพไทยลิงโลด คิกออฟยกเว้นภาษีกำไรจากการ ขายหุ้น หรือ Capital Gains Tax สำหรับการลงทุนในสตาร์ตอัพไทย คาดบังคับใช้ภายในไตรมาสแรก มั่นใจสร้างสตาร์ตอัพไทยใหม่ถึง 5,000 รายภายในปีนี้
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานสภาดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติตามข้อเสนอของสภาดิจิทัลฯ เมื่อปลายปี 2564 ที่ผ่านมา ในการสนับสนุนและเสริมศักยภาพให้กับผู้ประกอบการสตาร์ตอัพไทยให้สามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้ ด้วยการยกเว้นการเก็บภาษีกำไรจากการขายหุ้นหรือ Capital Gains Tax สำหรับการลงทุนในสตาร์ตอัพไทยนั้น ล่าสุด คาดว่าจะสามารถประกาศใช้พระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ยกเว้น ภาษี Capital Gains Tax นี้ ได้ในไตรมาสแรกปีนี้
นายศุภชัย กล่าวว่า ได้รายงานความคืบหน้าในการออกกฎหมายดังกล่าวต่อที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.)แล้ว หลังร่วมกับกรมสรรพากร และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง จัดทำร่าง พ.ร.ฎ.ยกเว้น ภาษี Capital Gains Tax สำหรับการลงทุนในสตาร์ตอัพไทย โดยปัจจุบันกรม สรรพากรกำลังเสนอร่าง พ.ร.ฎ.ตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป โดยเชื่อมั่นว่ามาตรการยกเว้นภาษี Capital Gains Tax จะสร้างสตาร์ตอัพไทยรายใหม่เป็นจำนวนถึง 5,000 ราย ในปี 2565 ถือเป็นส่วนสำคัญในการช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยที่เกิดขึ้นได้จากความร่วมมือของทุกภาคส่วน
“จากนี้ไปคือการเร่งพัฒนากำลังคนดิจิทัลให้เทียบเท่าระดับสากลตั้ง เป้าหมายพัฒนาทักษะดิจิทัลในกลุ่มทักษะขั้นสูง 3.5 ล้านคน ภายในปี 2570 โดยจะมีการสร้างมาตรฐานและใบรับรองหลักสูตร รวมทั้งการดึงผู้เชี่ยวชาญทักษะสูงจากต่างประเทศเข้ามาในไทย เพื่อกระตุ้นการ พัฒนาและเพิ่มจำนวนแรงงานดิจิทัลขั้นสูงในอนาคต”
นายศุภชัย กล่าวอีกว่า มาตรการภาษีที่ช่วยสนับสนุนสตาร์ตอัพไทยในครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จจากความร่วมมือที่ดีในการทำงานร่วมกันทั้งหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง, ภาคเอกชน พร้อมทั้งกลุ่มนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นก้าวแรกที่สำคัญในการดึงดูดการลงทุน สร้างมูลค่าเพิ่มให้เศรษฐกิจในประเทศไทย โดยนอกเหนือจากภาพการลงทุนแล้ว สภาดิจิทัลฯยังให้ความสำคัญ เรื่องการพัฒนาระบบนิเวศ หรือ Ecosystem ให้แข็งแกร่ง พัฒนากำลังคนดิจิทัล การพัฒนาแพลตฟอร์มและคอนเทนต์ที่ได้รับการรับรอง และจะเดินหน้าส่งเสริมการลงทุนสำหรับธุรกิจด้านเทคโนโลยีและสตาร์ตอัพในไทยต่อเนื่องต่อไป
นายศรัณย์ สุตันติวรคุณ นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจเงินร่วมลงทุนไทย (Thai Venture Capital Association-TVCA) กล่าวว่า พ.ร.ฎ.การยกเว้นภาษี Capital Gains Tax ฉบับนี้ เป็นการสร้างสิทธิประโยชน์พื้นฐานที่จำเป็นต่อการส่งเสริมศักยภาพการลงทุนให้กับสตาร์ตอัพและบริษัทเทคโนโลยีไทยเป็นอย่างมาก ทั้งยังเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศ แม้อาจไม่ใช่ปัจจัยดึงดูดให้ต่างชาติย้ายฐานการลงทุนมาประเทศไทยในทันที แต่ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีเพื่อ ให้สตาร์ตอัพไทยเติบโตสู้กับประเทศอื่นได้ และจะทำให้สตาร์ตอัพไทยสามารถดึงบุคลากรที่มีศักยภาพจากทั่วโลกมาร่วมสร้างคุณค่าและมูลค่าให้กับธุรกิจเพิ่มขึ้นด้วย”
ขณะที่ นางณิชาภัทร อาร์ค Director & Thailand Coverage, Openspace Ventures ตัวแทนจากผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ กล่าวว่า การยกเว้นภาษี Capital Gains Tax จะช่วยดึงดูดเงินลงทุนเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งการตัดสินใจเลือกลงทุนในสตาร์ตอัพจะพิจารณาหลายปัจจัย ตั้งแต่แผนธุรกิจและศักยภาพของสตาร์ตอัพ ขนาดของตลาด (Market Size) การ คำนวณผลตอบแทนจากการลงทุน รวมถึงการพิจารณาเรื่องนโยบายภาษีของประเทศที่จะเข้าลงทุนด้วย ดังนั้นมองว่า เป็นเรื่องที่ดีในการทำงานแบบบูรณาการร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนครั้งนี้ ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศมากที่สุด.