ทริส เพิ่มอันดับเรตติ้ง "เงินติดล้อ" เป็น A ด้วยแนวโน้มคงที่ หลังเข้าเทรดในตลาดหุ้นไทย โชว์การเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR กล่าวว่า บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้ประกาศปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรและอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของบริษัทฯ เป็นระดับ A จากเดิม A- ด้วยแนวโน้มคงที่ หรือ Stable โดยการปรับเพิ่มอันดับเครดิตพิจารณาจากเงินเพิ่มทุนเข้าบริษัทฯ กว่า 7 พันล้านบาท ภายหลังเข้าจดทะเบียนครั้งแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ส่งผลให้อัตราส่วน risk-adjusted capital หรือ RAC สูงขึ้นกว่า 37% จาก 23% ณ สิ้นปี 2563 สะท้อนให้เห็นถึงฐานเงินทุนที่แข็งแกร่ง และยังคงได้รับการสนับสนุนทั้งด้านธุรกิจและการเงินระยะยาวจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY ซึ่งยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ถือหุ้น 30% ของบริษัทฯ และบริษัทฯ ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มทางการเงินของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ตามข้อกำหนดของธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับ เงินติดล้อ เป็นแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง มีสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่ง และเป็นผู้นำทั้งในตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถทุกประเภทและตัวแทนประกันวินาศภัย นอกเหนือจากเงินทุนที่เพิ่มขึ้น บริษัทฯ ยังมีการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบและมีคุณภาพ รวมถึงการจัดหาแหล่งเงินทุนที่หลากหลายและเพียงพออย่างต่อเนื่อง
ส่วนแนวโน้มอันดับเครดิตคงที่ หรือ Stable สะท้อนความสามารถในการรักษาความแข็งแกร่งของเงินทุน สถานะความเป็นผู้นำทางการตลาด และการมีผลประกอบการที่น่าพึงพอใจอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความสามารถที่จะควบคุมคุณภาพสินเชื่อเอาไว้ในระดับที่ยอมรับได้ ในขณะที่การสนับสนุนหลากหลายด้านจากธนาคารกรุงศรีอยุธยาจะยังคงดำเนินต่อไป
นายปิยะศักดิ์ กล่าวอีกว่า ผลประกอบการของเงินติดล้อในช่วงไตรมาสแรกของปี 2564 นั้น บริษัทฯ แสดงให้เห็นผลงานเป็นที่น่าประทับใจของนักลงทุน โดยมีกำไรสุทธิกว่า 783 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเกือบ 12% เป็นไปตามเป้าหมายของบริษัทฯ ที่วางไว้ ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะมีอัตราการเติบโตที่ 15-20% จากปีก่อน แม้ว่าจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ของโควิด-19 ระลอกที่ 3 ก็ตาม
อีกทั้งมียอดลูกหนี้รวมทั้งสิ้นมากกว่า 53,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 ซึ่งเติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ภายหลังจากการได้รับเงินเพิ่มทุนกว่า 7 พันล้านบาท บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายสาขาอีก 150 สาขา ภายในปี 2564 รวมขยายเพิ่ม 500 สาขา ภายในปี 2566 รองรับการเติบโตของทั้งสองธุรกิจ
นอกจากนี้ เงินติดล้อ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกค้าที่มีแนวโน้มไปทางออนไลน์เพิ่มขึ้น รวมทั้งการพัฒนาบัตรติดล้อ ตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจให้สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และการพัฒนาแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อตอบสนองต่อความเป็นหนึ่งในผู้นำด้านนายหน้าประกันวินาศภัยพร้อมการให้บริการด้านประกันภัยที่หลายหลาย เช่น ประกันภัยรถยนต์ ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) ประกันภัยโรคมะเร็ง ประกันโควิด และยังมีบริการจำหน่าย พ.ร.บ. ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่มีอยู่ทั่วประเทศอีกด้วย.