ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 3 มี.ค.63 ปิดที่ 1,375.02 จุด เพิ่มขึ้น 39.30 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 70,043.55 ล้านบาท
บล.เอเซียพลัส ออกบทวิเคราะห์ เรื่อง “เป้าหมาย SET Index ปี 63 ควรอยู่ตรงไหน?” หลังดัชนีลงมาต่ำกว่าระดับ 1,400 จุด แล้วเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยสิ้นปี 63 ควรจะอยู่ตรงไหน!??
ฝ่ายวิจัยได้รวมตัวเลขกำไร บจ.งวดปี 62 ที่แจ้งตลาดแล้ว 98% ของมูลค่าตลาดรวม มีกำไรสุทธิ 9.39 แสนล้านบาท ลดลง 3.3% yoy ใกล้เคียงกับฝ่ายวิจัยประเมิน แต่เนื่องจากกังวลต่อการโตของเศรษฐกิจ ฝ่ายวิจัยจึงได้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 63 ลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยกลุ่มที่ถูกปรับลดกำไร ได้แก่ พลังงาน-ปิโตรเคมี (PTT-PTTGC-IVL-TOP BANPU) รวมกำไรที่ปรับลง 6.1 หมื่นล้านบาท ถูกกดดันจาก Spread ปิโตรฯที่อยู่ระดับต่ำ
กลุ่มแบงก์ (SCB-BB-KBANK) รวมกำไรที่ปรับลง 1.3 หมื่นล้านบาท ถูกกดดันจากดอกเบี้ยที่ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ กับเศรษฐกิจชะลอตัว จึงมีความเสี่ยงที่จะมีการลดดอกเบี้ยลงอีกในปีนี้ กลุ่มสื่อสาร (ADVANC-TRUE-INTUCH-DTAC) รวมกำไรที่ปรับลง 1 หมื่น ล้านบาท, กลุ่มการบินและท่องเที่ยว (THAI-AOT-AAV) กำไรปรับลง 3.1 หมื่นล้านบาท
ขณะที่ บจ.ที่ถูกปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 63 เช่น กลุ่มอาหารส่งออก อย่าง CPF ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรขึ้น 3.5 พันล้านบาท (B.GRIM-GULF-PTTEP) รวมกำไรที่ปรับขึ้น 1.6 พันล้านบาท, กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ที่ปรับกำไรขึ้น 1.5 หมื่นล้านบาท
โดยภาพรวมได้ปรับลดประมาณการกำไร บจ.ปี 63 ลง 8.3 หมื่น ล้านบาท มาที่ 9.18 แสนล้านบาท ลดลง 8.2% จากเดิม ส่งผลให้คาดการณ์ EPS ปี 63 ลงมาอยู่ที่ 85.6 บาทต่อหุ้น จากเดิม 95.71 บาทต่อหุ้น
หากประเมินเป้าหมายดัชนีให้ตลาดกลับมาซื้อขายกันบน Market Earning Yield Cap แบบอนุรักษนิยมที่ระดับ 5% ขณะที่ Bond Yield ที่อยู่ในระดับต่ำมาก ตามกลไกจะหนุนให้ซื้อขายบน P/E ที่สูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 17 เท่า ทำให้เป้าหมายดัชนีปลายปี 63 จะอยู่ที่ 1,455 จุด ลดลงจากเดิมที่เคยประเมินไว้ที่ 1,579 จุด
กลยุทธ์ลงทุนเดือน มี.ค. แนะสะสมหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่ง มีแนวโน้มกำไรโตโดดเด่นเหนือตลาด เช่น BJCHI, CHG, CPALL, CPF, INTUCH และ MCS ส่วนหุ้นที่ให้เลี่ยงคือ หุ้นที่ Over Value อย่าง TKN และ HANA!!
อินเด็กซ์51