ดีแทคขาดทุนครั้งแรก!!

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 16 ต.ค. 61 ปิดที่ 1,697.87 จุด เพิ่มขึ้น1.71จุดมีมูลค่าการซื้อขาย 38,488.45 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 2,827.2 ล้านบาท

หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด PTT ปิด 51 บาท ลบ 0.50 บาท, CPALL ปิด 67.50 บาท บวก 0.25 บาท, MTC ปิด 52.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง,KBANK ปิด 209 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงและ IVL ปิด 58 บาท บวก 0.50 บาท

บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) แจ้งตลาดหลักทรัพย์ ไตรมาส 3 พลิกขาดทุนสุทธิเป็นครั้งแรกนับจากเข้าตลาดหุ้น โดยมีผลขาดทุนสุทธิ 921 ล้านบาท โดยระบุว่าเป็นผลจาก EBITDA ที่ลดลงรวมทั้งมีค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น ซึ่งรวมถึงรายการพิเศษจากค่าตัดจำหน่ายที่เป็นผลจากการระงับข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับกรรมสิทธิ์ในเสาโทรคมนาคมกับกสท.

สำหรับงวดรวม 9 เดือนแรกปี 61 มีกำไรสุทธิ 572 ล้านบาท เนื่องจากค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายที่สูงขึ้นจากการลงทุนในการขยายโครงข่าย และจากค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่เงินสดที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวจำนวน 1,400 ล้านบาท จากการตกลงยุติข้อพิพาทการเป็นเจ้าของเสาสัญญาณกับทาง CAT ก่อนที่สัมปทานจะสิ้นสุดลง

จากผลดำเนินงาน 9 เดือนแรกปี 61 ส่งผลให้บริษัทปรับแนวโน้มผลดำเนินงานปี 61 โดยคาดว่ารายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายจะลดลงจากปีก่อน ในอัตราเลขหลักเดียวช่วงต่ำ ขณะที่ EBITDA margin มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมาอยู่ในช่วง 36-38% และคาดว่าจะใช้เงินลงทุน 18,000-20,000 ล้านบาท เพื่อเร่งขยายโครงข่าย

DTAC ยังระบุว่า ณ สิ้นเดือน ก.ย.61 จำนวนฐานลูกค้ารวมอยู่ที่ 21.3 ล้านราย ประมาณ 99% ของจำนวนนี้ได้ลงทะเบียนภายใต้ดีแทค ไตรเน็ต (DTN) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของดีแทคที่ได้รับใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ 2100 MHz จาก กสทช.

ช่วง 9 เดือนแรกปี 61 รายได้จากการให้บริการหลัก (รายได้จากบริการเสียงและข้อมูล) เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.3% จากปีก่อน แต่รายได้จากการให้บริการไม่รวม IC ลดลง 1.7% จากปีก่อน มาจากการลดลงของรายได้จากบริการโทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศ (IDD) และรายได้จากบริการอื่นๆ ถึงแม้ว่าดีแทคเริ่มชำระเงินให้กับ TOT ภายใต้สัญญาการให้บริการบนคลื่นความถี่ 2300 MHz

แต่ EBITDA margin สำหรับ 9 เดือนแรกของปี 61 ยังคงสูงอยู่ที่ 41.5% ของรายได้รวมทั้งหมด ถ้าไม่รวมค่าใช้จ่ายจำนวนนี้ EBITDAmargin สำหรับช่วงสามไตรมาสนี้จะอยู่ที่ 45.0%.

อินเด็กซ์ 51