ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 3 ต.ค.61 ปิดที่ 1,741.96 จุด ลดลง 6.13 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 58,138.89 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,017.13 ล้านบาท
หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด IVL ปิดที่ 62.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท, PTT ปิด 53.50 บาท ลบ 1 บาท, BEAUTY ปิด 11.00 บาท ลบ 0.80 บาท, PTTGC ปิด 82 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท และ EA ปิด 48.25 บาท ลบ 2.25 บาท
ตลาดผันผวนแกว่งตัวขึ้นลงทั้งในแดนบวกและลบ ขณะที่ปัจจัยภายนอกยังคงกดดันบรรยากาศการลงทุนโดยรวม
“จิตรลดา เลขาพันธ์” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ไอร่า มองภาพรวมตลาดหุ้นเดือน ต.ค. มีโอกาสปรับขึ้นให้กรอบดัชนี 1,736 - 1,766 จุด มีแนวต้านถัดไปที่ 1,798 จุด หลังตลาดสะท้อนการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดที่คาดว่าจะต่อเนื่องถึงปี 62 ขณะที่คาดหุ้นกลุ่มพลังงาน ยังได้ปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันที่ทรงตัวสูง
ส่วนประเด็นในประเทศที่ส่งผลเชิงบวกต่อตลาด คือการเลือกตั้งที่มีความชัดเจน ซึ่งคาดว่าช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ และการเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 3 ที่จะเริ่มเข้ามาเก็งกำไรหุ้นแบงก์ก่อนรวมถึงกองทุน Thailand Future Fund มูลค่า 45,000 ล้านบาท มีแผนขายหน่วยลงทุน 12-19 ต.ค.นี้
ขณะที่ Fund Flow เดือน ก.ย.61 ต่างชาติขายสุทธิ 7,756 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายสุทธิ 9 เดือนแรกปี 61 รวม 208,874 ล้านบาท หรือราว 6,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
แนะกลยุทธ์ลงทุนเก็งกำไรหุ้นเฉพาะกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสื่อสาร อานิสงส์จากการประมูลคลื่น 900 MHz ซึ่งกำหนดยื่นซอง 8 ต.ค.61 และกำหนดวันประมูล 20 ต.ค.61 หากมีผู้เข้าร่วมประมูลมากกว่า 1 ราย
กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง รับอานิสงส์จากโครงการต่างๆ ที่ทยอยเปิดประมูลช่วง ต.ค.-พ.ย. เช่น ทางด่วนพระราม 3-วงแหวนรอบนอก มูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท และรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มูลค่ากว่า 200,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังแนะ “ทยอยสะสม” หุ้นที่มีความน่าสนใจจากปัจจัยเฉพาะตัว รวมถึงผลประกอบการครึ่งหลังปี 61 มีแนวโน้มดีกว่าครึ่งแรกปี 61 พร้อมกับการเติบโตต่อเนื่องในปี 62 ได้แก่ BR, KTB, SPA, STEC, SVI และ TOP เป็นต้น.
อินเด็กซ์ 51