นายพิพัฒน์ สุทธิวิเศษศักดิ์ นายกสมาคมการค้าผู้ผลิตเอทานอลไทย เปิดเผยว่า สมาคมคาดหวังว่ารัฐบาลใหม่จะให้ความสำคัญกับการส่งเสริมน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ (Biofuel) มากขึ้น เพราะมีฐานการผลิตมาจากภาคเกษตรของไทย โดยเฉพาะเอทานอลที่ผลิตจากอ้อยและมันสำปะหลัง ด้วยการผลักดันให้น้ำมันกลุ่มเบนซินปัจจุบันที่มีหัวจ่าย 5-6 ชนิด เหลือเพียงแก๊สโซฮอล์อี 20 (E20) ที่ผสมเอทานอลในเบนซิน 20% เป็นน้ำมันพื้นฐานของกลุ่มเบนซินและมีแก๊สโซฮอล์ อี 85 (E85) เป็นน้ำมันทางเลือก
“ที่ผ่านมารัฐบาลมุ่งเน้นการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) มากเกินไปซึ่งไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดีแต่ผมมองว่ายังไม่ได้ดีที่สุด เพราะทำให้เชื้อเพลิงชีวภาพไม่ได้รับการส่งเสริมให้เหมาะสมกับข้อเท็จจริง เพราะเชื้อเพลิงชีวภาพหากได้รับการส่งเสริมให้มากกว่าปัจจุบัน จะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร เพราะมีส่วนในการยกระดับราคาและรายได้ในระยะยาว”
ทั้งนี้ แม้ที่ผ่านมากระทรวงพลังงานจะมีนโยบายที่จะยกเลิกน้ำมัน เบนซินบางชนิดแต่ก็ไม่ได้มีแผนคืบหน้าแต่อย่างใด โดยเฉพาะอี 20 ที่ระบุว่าเป็นน้ำมันเบนซินพื้นฐาน รัฐบาลก็ไม่ได้มีการส่งเสริมหรือสนับสนุนให้ประชาชนมีความต้องการใช้มากขึ้น จึงเห็นว่าควรจะกำหนดแผนที่ชัดเจนขึ้นโดยหากกรณีที่กังวลว่าปริมาณการผลิตเอทานอลบางช่วงเวลาอาจจะเกิดการขาดแคลนก็ยังสามารถนำเข้าจากต่างประเทศมาชั่วคราวได้โดยหากมีนโยบายชัดเจนไม่เปลี่ยนไปมาก็เชื่อว่าปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้น
“ขณะนี้รัฐบาลมองว่าเอทานอลเป็นภาระ โดยเฉพาะการนำมาผสมเป็นน้ำมันอี 85 เพราะกองทุนน้ำมันต้องอุดหนุนในราคาที่สูงในช่วงที่ผ่านมา ในภาวะที่กองทุนน้ำมันที่ขณะนี้เป็นหนี้สะสม 80,000 ล้านบาท จึงไม่ได้สนับสนุนในเรื่องน้ำมันอี 85 มากนัก และตรงกันข้ามมีการเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ทั้งหมด รวมถึงอี 20 และ อี 85 ที่เก็บที่ลิตรละ 0.31 บาทเข้ากองทุนน้ำมัน ทำให้อี 85 มีราคาไม่จูงใจให้ประชาชนเติมน้ำมันดังกล่าว ส่งผลให้ที่สุดผู้ค้าก็จะทยอยยกเลิกจำหน่าย”.