แปลงความเจ็บปวดเป็นโอกาสลงทุน

คลอดแล้วครับ “กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (TESG)” ตามข้อเรียกร้องของ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย และ คุณเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคลัง ก็ประกาศสนับสนุนเต็มที่ เพื่อเดินหน้าอย่างเต็มกำลังไปสู่เป้าหมาย “การพัฒนาอย่างยั่งยืน” หรือ Sustainability Development Goals (SDGs) กองทุนรวม TESG จะลงทุนใน “ยั่งยืน” ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งมีอยู่เกือบ 200 บริษัท ล้วนเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มั่นคง มีนโยบายดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืน และมีสภาพคล่องสูง

กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (TESG) จะลงทุนเฉพาะ “หุ้น” และ “ตราสารหนี้” ที่เข้าหลักเกณฑ์ของความยั่งยืน ESG เท่านั้น

คุณพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (TESG) พร้อมเสนอขายหน่วยลงทุนตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป มีทั้งหมด 22 กองทุน จาก 16 บริษัท จัดการกองทุน (บลจ.) ผู้ลงทุนในกองทุน TESG จะได้สิทธิหักลดหย่อนภาษีจากค่าซื้อหน่วยลงทุนได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน และไม่เกิน 100,000 บาทสำหรับปีภาษี และต้องถือหน่วยลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 8 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุน สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ตั้งแต่ปีภาษี 2566 ใน 3 สัปดาห์ที่เหลือของปีนี้ คาดว่าจะสามารถขายหน่วยลงทุน TESG ได้ถึง 10,000 ล้านบาท และคาดว่าปีต่อๆไปจำนวนกองทุนและเงินลงทุนจะเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ

เมื่อพูดถึงการลงทุนในกองทุนและหุ้นในช่วงนี้ หลายคนอาจรู้สึกกังวลใจ แต่การลงทุนเพื่อเพิ่มรายได้ก็ยังเป็นสิ่งจำเป็น ในความเห็นผม กองทุนรวม TESG น่าจะเป็นกองทุนที่ดีที่สุดในการลงทุนช่วงนี้ เพราะ มีการกลั่นกรองหลายชั้นมาก และ บลจ.จะเป็นผู้กลั่นกรองชั้นสุดท้าย ก่อนจัดเป็นพอร์ตกองทุนเพื่อขายหน่วยลงทุนให้กับนักลงทุน

การประเมินหุ้นยั่งยืน หรือ SET ESG Rating ของตลาดหลักทรัพย์ จะมีการประเมินกันทุก 6 เดือนตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด หลักทรัพย์ที่เข้าข่ายจะต้องมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap) ไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาทขึ้นไป มีสัดส่วนของผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free-float) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของทุนชำระแล้ว มีจำนวนหุ้นซื้อขายไม่น้อยกว่าร้อยละ 0.5 ของจำนวนหุ้นที่จดทะเบียนเป็นเวลาต่ำกว่า 9 ใน 12 เดือน และยังมีการถ่วงน้ำหนักด้วยมูลค่าทรัพย์ตามราคาตลาด ปัจจุบันหุ้น ESG มีเกือบ 200 บริษัท ในพิธีมอบรางวัล SET Awards 2023 ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มีหุ้นยั่งยืนที่ได้รับรางวัล SET Awards เป็นหุ้นยั่งยืนที่ดีที่สุดถึง 35 บริษัท

ผมจึงเชื่อว่า การลงทุนใน กองทุนหุ้นยั่งยืน TESG น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการลดหย่อนภาษีสำหรับนักลงทุนที่มีศักยภาพในการลงทุน

คุณกวี ชูกิจเกษม หัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.พาย เคยพูดไว้ใน “วิธีคิดและมุมมองในการสร้าง Future Wealth 2024” ในเวทีสัมมนาของ วารสารการเงินธนาคาร ว่า “ความเจ็บปวดในอดีต เป็นโอกาสที่ดีในอนาคต การลงทุนในภาวะที่ผันผวนจะไม่ง่ายเหมือนแต่ก่อน นักลงทุนควรลงทุนอย่างระมัดระวัง ทยอยเก็บสภาพคล่องให้ได้มากที่สุด เลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มี Buffer และมีสภาพคล่องที่เพียงพอต่อการเกิดวิกฤติในอนาคตได้”

คุณปุณยวีร์ จันทรขจร ซีอีโอฝ่ายกลยุทธ์ บล.ควอนตัม เว็ลธ์ ก็มีความเห็นว่า ข้อดีในช่วงที่ต้นทุนการเงินสูง จะช่วยกรองให้ธุรกิจที่มีความสามารถในการทำธุรกิจอย่างแท้จริงเข้ามาในตลาด ทำให้นักลงทุนพิจารณาได้ง่าย นักลงทุนจะสามารถหาหุ้นที่จ่าย Yield Play ได้เท่าเดิม ในขณะที่ราคาหุ้นถูกลง

ก็เอาข้อมูลมาแชร์กันครับ เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนในช่วง 3 สัปดาห์สุดท้ายของปีนี้ โดยเฉพาะ กองทุนหุ้นยั่งยืน TESG ซึ่งจะได้ลดหย่อนภาษีเพิ่มอีก 1 แสนบาท.

“ลม เปลี่ยนทิศ”

คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม