7 หุ้นกลุ่ม ปตท. ประกาศผลงานปี 67 กำไรรวม 1.5 แสนล้าน วูบ 29% PTTGC ขาดทุนอ่วม

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

7 หุ้นกลุ่ม ปตท. ประกาศผลงานปี 67 กำไรรวม 1.5 แสนล้าน วูบ 29% PTTGC ขาดทุนอ่วม

Date Time: 21 ก.พ. 2568 11:39 น.

Video

Nokia ทำยังไง? ทุกวันนี้ถึงทำธุรกิจสบายกว่าตอนขายมือถือ | Digital Frontiers

Summary

  • หุ้นกลุ่ม ปตท. ทั้ง 7 บริษัท รายงานงบการเงินเป็นที่เรียบร้อย โดยทำกำไรสุทธิปีนี้รวมทั้งหมด 155,563.98 ล้านบาท ลดลง 29.62% โดยสามารถทำกำไรสุทธิได้ 5 บริษัท ขณะที่อีก 2 บริษัทมีผลขาดทุน พบ PTTGC พลิกขาดทุนกว่า 29,810.55 ล้านบาท

Latest


จับตาช่วงประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนปี 2567 พบหุ้นกลุ่ม ปตท. ทั้ง 7 บริษัท รายงานงบการเงินต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย โดยทำกำไรสุทธิปีนี้รวมทั้งหมด 155,563.98 ล้านบาท ลดลง 29.62% จากปีก่อนที่ทำได้ 221,037.69 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม บริษัทในกลุ่ม 7 บริษัท สามารถทำกำไรสุทธิได้ 5 บริษัท ได้แก่ 

  • บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT)
  • บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (PTTEP)
  • บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (TOP)
  • บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR)
  • บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (GPSC)

ขณะที่อีก 2 บริษัทมีผลขาดทุน ได้แก่ 

  • บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (IRPC) 
  • บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTGC) 

โดยผลประกอบการปี 2567 ที่ทั้ง 7 บริษัทรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า 

  • PTT กำไรสุทธิปี 2567 ที่ 90,072 ล้านบาท ลดลง -19.6% จากปี 2566 กำไรสุทธิ 112,023.88 ล้านบาท
  • PTTEP กำไรสุทธิปี 2567 ที่ 78,824.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.76% จากปี 2566 กำไรสุทธิ 76,706.39 ล้านบาท
  • TOP กำไรสุทธิปี 2567 ที่ 9,958.63 จากปี 2566 ลดลง -48,78% กำไรสุทธิ 19,443.17 ล้านบาท
  • OR กำไรสุทธิปี 2567 ที่ 7,650.31 ลดลง -31.0% จากปี 2566 กำไรสุทธิ 11,094.07 ล้านบาท
  • GPSC กำไรสุทธิปี 2567 ที่ 4,062.38 เพิ่มขึ้น 9.97% จากปี 2566 กำไรสุทธิ 3,694.22 ล้านบาท
  • IRPC ขาดทุนสุทธิปี 2567 ที่ 5,193.03 ลดลง -77.65% จากขาดทุนสุทธิปี 2566 ที่ 2,923.17 ล้านบาท
  • PTTGC ขาดทุนสุทธิปี 2567 ที่ 29,810.55 ลดลง -3,083% จากปี 2566 กำไรสุทธิ 999.13 ล้านบาท

PTT กำไรลด 20% 

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT รายงานว่าในปี 2567 มี EBITDA จํานวน 396,234 ล้านบาท ลดลง 30,661 ล้านบาท หรือ 7.2% จากปี 2566 ที่จํานวน 426,895 ล้านบาท โดยหลักจากกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น โดยธุรกิจการกลั่นมีผลการดําเนินงานลดลง จาก Market GRM ที่ลดลง ประกอบกับมีผลขาดทุนสต๊อกน้ํามันสุทธิกับมูลค่าสุทธิที่จะได้รับของสินค้าคงเหลือเพิ่มขึ้น ซึ่งในปี 2567 ปตท. และบริษัทย่อยมีผลขาดทุนประมาณ 13,000 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2566 เป็นขาดทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท

ในปี 2567 ปตท. และบริษัทย่อยมีกําไรสุทธิจํานวน 90,072 ล้านบาท ลดลง 21,952 ล้านบาท หรือ -19.6% จากปี 2566 ที่จํานวน 112,024 ล้านบาท โดยหลักจาก EBITDA ที่ลดลงตามกล่าว ข้างต้น ประกอบกับค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจําหน่ายที่เพิ่มขึ้น และกําไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ลดลง

อีกทั้งในปี 2567 มีการรับรู้ รายการ Non-recurring Items สุทธิภาษีตามสัดส่วนของ ปตท. เป็นขาดทุนประมาณ 4,500 ล้านบาท โดยปัจจัยหลักมาจากการด้อยค่าและ ประมาณการค่าใช้จ่ายที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตของกลุ่มบริษัท Vencorex และ PTTAC ของ GC ประมาณ 10,500 ล้านบาท

PTTEP กำไรเพิ่ม หลังรับรู้ผลขาดทุนปีก่อนหน้า

บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP รายงานว่าปี 2567 กำไรจากการดำเนินงานปกติลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนหน้า แม้ว่าปริมาณขายจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 6% มาอยู่ที่ 488,794 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน จากการเพิ่มกำลังการผลิตของโครงการจี 1/61 ตามแผนงาน และการรับสัดส่วนการลงทุนเพิ่มเติมในโครงการยาดานาภายหลังการถอนการลงทุนของผู้ร่วมทุน

แต่ราคาขายเฉลี่ยของบริษัทปรับลดลง 3% มาอยู่ที่ 46.78 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ประกอบกับต้นทุนต่อหน่วยที่เพิ่มขึ้น 7% มาอยู่ที่ 29.58 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ จึงทำให้กำไรจากการดำเนินงานปกติลดลง

อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2,227 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากในปี 2566 มีการรับรู้ผลขาดทุนที่ไม่ใช่การดำเนินงานปกติจากการด้อยค่าสินทรัพย์โครงการโมซัมบิก ในขณะที่ปี 2567 ไม่มีรายการดังกล่าว

TOP กำไรหด 49% เหตุกลั่นลดลง ปรับลดราคาสินค้า

บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP รายงานว่าปี 2567 กลุ่มไทยออยล์มีกําไรสุทธิ 9,959 ล้านบาท ลดลง 9,484 ล้านบาท หรือ -48.78% จากปี 2566 ที่ 19,443.17 ล้านบาท โดยมีอัตราการใช้กําลังการกลั่นลดลง เนื่องจากมีการหยุดเดินเครื่องนอกแผนของหน่วยกลั่นนํ้ามันดิบที่ 3 เป็นเวลา 13 วัน ในเดือนมกราคม 2567 และมีการหยุดซ่อมบํารุงตามแผนของหน่วยกลั่นนํ้ามันดิบที่ 1 และหน่วยที่เกี่ยวข้อง เป็นเวลา 11 วัน ในเดือนพฤษภาคม 2567

ประกอบกับราคาขายผลิตภัณฑ์หลายผลิตภัณฑ์ที่ปรับลดลง ส่งผลให้กลุ่มไทยออยล์มีรายได้จากการขาย 455,857 ล้านบาท ลดลง 3,545 ล้านบาท ด้านกําไรขั้นต้นจากการกลั่นปรับลดลงจากส่วนต่างราคานํ้ามันเบนซิน นํ้ามันอากาศยาน/นํ้ามันก๊าดและนํ้ามันดีเซลกับนํ้ามันดิบดูไบที่ปรับลดลง จากอุปทานที่เพิ่มขึ้นจากโรงกลั่นใหม่เริ่มดําเนินการ

นอกจากนี้ กลุ่มไทยออยล์รับรู้ขาดทุนจากสต๊อกนํ้ามัน 5,913 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น 5,105 ล้านบาทช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า จากราคานํ้าดิบดูไบเฉลี่ยในปี 2567 ปรับลดลงจากความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยเฉพาะในเขตเศรษฐกิจโลก ได้แก่ สหรัฐ และจีน

OR กำไรลด 31% ปริมาณขายปลีกน้ำมันฉุด

บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR รายงานว่า ปี 2567 มีกําไรสุทธิ จํานวน 7,650 ล้านบาท ลดลง 3,444 ล้านบาทจากปี 2566 หรือ -31.0% คิดเป็นกําไรต่อหุ้น 0.64 บาท

โดยผลการดําเนินงานปี 2567 OR มีรายได้ขายและบริการ 723,958 ล้านบาท ลดลง 45,783 ล้านบาท (-5.9%) จากปี 2566 โดยสาเหตุหลักมาจากปริมาณจําหน่ายน้ํามันที่ลดลง และราคาน้ํามันในตลาดโลกเฉลี่ยปรับลดลงของกลุ่มธุรกิจ Mobility โดยรายได้ขายลดลง 7.4%

สวนทางกับกลุ่มธุรกิจ Lifestyle ที่เพิ่มขึ้น 8.2% ตามการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้นของทั้งธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจค้าปลีกอื่น ๆ กลุ่มธุรกิจ Global ปรับเพิ่มขึ้น 10.9% ตามปริมาณจําหน่ายน้ํามันที่เพิ่มขึ้นในประเทศฟิลิปปินส์เป็นหลัก

GPSC กำไรบวก 10% จากปริมาณใช้ไฟฟ้าอุตสาหกรรมเพิ่ม

บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC สําหรับงวด 12 เดือน ปี 2567 กําไรสุทธิของบริษัทฯ มีมูลค่า 4,062 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 368 ล้านบาทหรือ 10% เมื่อเทียบ กับปี 2566 โดยหลักจากกําไรขั้นต้น 20,984 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,122 ล้านบาทหรือ 6% สาเหตุหลักมาจาก โรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) ที่เพิ่มขึ้น 3,057 ล้านบาท อันเนื่องมาจากปริมาณความต้องการไฟฟ้าและไอน้ําของลูกค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น

รวมถึงบริษัทฯ ได้มี การบริหารจัดการต้นทุนเชื้อเพลิง ทั้งก๊าซธรรมชาติและถ่านหินที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าค่า Ft ซึ่งเป็นองค์ประกอบบางส่วน เฉพาะ ผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าที่ส่งผลต่อราคาขายไฟฟ้าอุตสาหกรรมจะลดลงก็ตาม แต่บริษัทฯ ยังคงมีโครงสร้างรายได้หลักในส่วนของไฟฟ้า ไอน้ําที่ ส่งผ่านต้นทุนได้ โรงไฟฟ้าผู้ผลิตอิสระ (IPP) ลดลง 2,021 ล้านบาท เนื่องจากโรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน มีค่าเชื้อเพลิงส่วนต่าง (Energy margin) ลดลง

IRPC อ่วมขาดทุนเพิ่ม 78% 

บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC รายงานว่า บริษัทฯ บันทึกผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิ 5,193 ล้านบาท ขาดทุนมากกว่าปี 2566 ที่ 78% โดยมีรายได้จากการขายสุทธิสำหรับปี 2567 จำนวน 281,711 ล้านบาท ลดลง 6% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีสาเหตุจากปริมาณขายลดลง 4% และราคาขายเฉลี่ยลดลง 2% ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง

สำหรับธุรกิจปิโตรเลียมมีกำไรขั้นต้นจากการกลั่นตามราคาตลาดที่ลดลงจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์เทียบกับราคาน้ำมันดิบดูไบปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบดูไบ ขณะที่ธุรกิจปิโตรเคมีมีกำไรขั้นต้นจากการผลิตตามราคาตลาดของกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีที่เพิ่มขึ้นจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีกับราคาแนฟทาปรับตัวเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ มีบันทึกค่าเสื่อมราคา 9,140 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อน เป็นผลจากสินทรัพย์ที่เพิ่มจากโครงการ Ultra Clean Fuel (UCF) ที่มีการผลิตเชิงพาณิชย์ในเดือนเมษายน 2567 ประกอบกับมีต้นทุนทางการเงินสุทธิจำนวน 2,427 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากเงินกู้ยืมที่เพิ่มขึ้น และอัตราดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้นตามตลาด นอกจากนี้ บริษัทฯ บันทึกขาดทุนจากการด้อยค่า และตัดจำหน่ายทรัพย์สินจำนวน 566 ล้านบาท โดยหลักมาจากบันทึกด้อยค่าเงินลงทุนของบริษัทย่อยและบริษัทร่วม และบันทึกการกลับรายการด้อยค่าที่ดิน

PTTGC พลิกขาดทุน 2.9 หมื่นล้าน 

บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC รายงานว่า บริษัทขาดทุนสุทธิปี 2567 ที่ 29,810.55 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 กำไรสุทธิ 999.13 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขายรวม 604,045 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 2% โดยมีสาเหตุสําคัญมาจากรายได้ของกลุ่มผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขั้นต้นที่ปรับตัวลดลงจากราคาผลิตภัณฑ์ของกลุ่มผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมสําเร็จรูปและกลุ่มผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ที่ลดลง

ในภาพรวมในปี 2567 บริษัทฯ มี Adjusted EBITDA อยู่ที่ 31,766 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 17% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากผลประกอบการของกลุ่มผลิตภัณฑ์โรงกลั่นที่อ่อนตัวลงตาม GRM

นอกจากนี้บริษัทฯ รับรู้รายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากการดําเนินงานปกติ ได้แก่ ผลขาดทุนจากสต๊อกน้ํามัน (Stock loss) และรายการขาดทุนจากการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือให้ เท่ากับมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ (NRV) รวม 2,457 ล้านบาท กําไรทางบัญชีจากอัตราแลกเปลี่ยนและกําไรจากตราสารอนุพันธ์ทางการเงินรวม 383 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามกลุ่มบริษัทได้รับรู้ประมาณการหนี้สินสำหรับกระบวนการปรับปรุงโครงสร้างธุรกิจทั้งหมดไว้อย่างครบถ้วนแล้วในปี 2567 โดยบริษัทฯ รับรู้ผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ในกลุ่มบริษัท Vencorex และประมาณการหนี้สินของค่าใช้จ่าย อื่นๆสำหรับกระบวนการปรับปรุงโครงสร้างธุรกิจรวม 10,028 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทฯ มีผลขาดทุนจากเงินลงทุนที่รับรู้ในปีนี้จํานวน 1,462 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าเนื่องจากผลประกอบการของธุรกิจปิโตรเคมีที่อ่อนตัวลงในปีนี้โดยเฉพาะธุรกิจโพลิไวนิลคลอไรด์ (PVC) ที่ปรับลดลงตามส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ PVC เป็นหลัก


อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ