มุมมองเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปี 2024 กับโอกาส Soft Landing

Experts pool

Columnist

Tag

มุมมองเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปี 2024 กับโอกาส Soft Landing

Date Time: 23 ก.พ. 2567 16:03 น.

Video

ล้วงไส้ TEMU อีคอมเมิร์ซจีน บุกไทย ทำไมอาจสร้างวิบากกรรมกว่าที่คิด ? | Digital Frontiers

Summary

  • มุมมองเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปี 2024 กับโอกาส Soft Landing

Latest


ปี 2023 เศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ได้เข้าสู่ภาวะ Recession ตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ โดยความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจมีส่วนสำคัญที่ทำให้ผลตอบแทนของหุ้นทั่วโลกเป็นบวกเกือบ 19% ส่วนดัชนี S&P 500 ให้ผลตอบแทนราว 23% (ข้อมูล ณ กลางเดือน ธ.ค.) 

ปัจจุบัน ตลาดได้เปลี่ยนความคาดหวังจาก Recession มาเป็น Soft Landing ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ธนาคารกลางสามารถควบคุมเงินเฟ้อได้โดยเศรษฐกิจยังเติบโตต่อไปได้อย่างมีเสถียรภาพ ไม่ร้อนแรงหรือชะลอตัวมากจนเกินไป

คำถามสำคัญสำหรับปี 2024 คือ Soft Landing จะเกิดขึ้นได้หรือไม่?

"สำหรับ StashAway เรามองว่ามีความเป็นไปได้ค่อนข้างน้อย"

การเติบโตจะค่อยๆ ชะลอตัว

ในปี 2023 เศรษฐกิจสหรัฐฯ สามารถทนทานต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วและรุนแรงได้ดีกว่าคาด โดยสาเหตุหลักที่ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง คือ ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งกว่าคาด ซึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในตลาดแรงงานในช่วง COVID-19

มุมมองของ StashAway คือ เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะชะลอตัวลงมากกว่านี้ในปี 2024 จากผลกระทบของอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานอาจทำให้การชะลอตัวเป็นไปอย่างช้าๆ  

เงินเฟ้ออาจยังยืดเยื้อ

เรามองว่าเงินเฟ้อจะเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดมากกว่า เพราะโอกาสที่เงินเฟ้อจะลดลงมาอยู่ในระดับเป้าหมาย 2% ของ Fed ยังคงมีอุปสรรคอยู่ โดยเฉพาะแรงกดดันจากฝั่ง Supply ในตลาดแรงงาน และราคาน้ำมันซึ่งอาจเป็นแรงขับเคลื่อนที่ทำให้เงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น 

ดังนั้นนักลงทุนยังต้องระมัดระวังในประเด็นเหล่านี้ เนื่องจากเงินเฟ้อที่เกิดจากฝั่ง Supply มักจะยืดเยื้อกว่า และอาจทำให้เศรษฐกิจอยู่ในภาวะ Stagflation นานขึ้น 

เทคโนโลยีบริหารการลงทุน ERAA™ มองว่า Soft Landing มีความเป็นไปได้แค่ไหน?

Soft Landing มีแนวโน้มเกิดขึ้นได้ยาก เพราะเมื่อดูตาม Framework ภาวะเศรษฐกิจ 4 แบบของ ERAA™ แล้ว ภาวะเศรษฐกิจมักเปลี่ยนแปลงเป็นวัฏจักรที่ต่อเนื่องกัน

ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2022 เทคโนโลยี ERAA™ ได้จับสัญญาณว่าเศรษฐกิจอยู่ในภาวะ Stagflation (การเติบโตชะลอตัว แต่เงินเฟ้อยังสูงอยู่) ดังนั้นหากเกิด Soft Landing จริง หมายความว่าเศรษฐกิจจะเปลี่ยนจากภาวะ Stagflation ไปเป็น Good Times โดยข้าม Recession ไป ซึ่งการจะเกิดสถานการณ์เช่นนี้ได้ ต้องอาศัยหลายปัจจัยที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กัน

ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจะเข้าสู่ Recession ในปีนี้ เราก็ไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องเลวร้ายสำหรับการลงทุนเสมอไป เพราะอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงอย่างในปัจจุบัน ทำให้ Fed สามารถลดอัตราดอกเบี้ยได้หากจำเป็น ซึ่งจะกลายเป็นแรงสนับสนุนที่ดีต่อทั้งตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้

อย่างไรก็ตาม Stagflation เป็นภาวะเศรษฐกิจที่ลงทุนค่อนข้างยาก เนื่องจากต้องกังวลทั้งการเติบโตและเงินเฟ้อในเวลาเดียวกัน เราจึงมองว่าความเสี่ยงสำคัญที่สุดในปี 2024 ไม่ใช่เรื่องที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ Recession หรือไม่ แต่เป็นความเสี่ยงที่เศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะ Stagflation ต่อไป

มองย้อนอดีต เพื่อให้เห็นภาพในอนาคต

หากเรามองย้อนกลับไปในอดีตจะพบว่า Soft Landing เกิดขึ้นค่อนข้างยาก

ในช่วงกลางทศวรรษ 1990 ซึ่งเป็นเพียงไม่กี่ครั้งที่ Fed สามารถทำให้เกิด Soft Landing ได้ โดยระหว่างปี 1994-95 Fed ค่อยๆ ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 3% มาอยู่ที่ 6% จากนั้นจึงลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือ 5.25% ในปีถัดมาเมื่อเศรษฐกิจลดความร้อนแรงลง ซึ่งในช่วงดังกล่าว GDP ของสหรัฐฯ ยังสามารถเติบโตเฉลี่ยได้กว่า 3% และอัตราการว่างงานยังลดลง รวมถึงเงินเฟ้อยังชะลอตัวลงด้วย

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในช่วงทศวรรษ 1990 มีลักษณะค่อนข้างเฉพาะตัว เนื่องจากเป็นช่วงที่เศรษฐกิจขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพและไม่มีการปรับตัวขึ้นครั้งใหญ่ของราคาสินค้า (เช่น ราคาน้ำมันในช่วงทศวรรษ 1970-80) ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 Productivity ของสหรัฐฯ ยังดีขึ้นกว่าเดิมมาก โดยเป็นผลมาจากการพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืนโดยไม่ทำให้เกิดเงินเฟ้อ

ความสำคัญของการ Stay Invested

นับตั้งแต่เกิด COVID 19 เศรษฐกิจโดยรวมยังมีความไม่แน่นอนสูง ยิ่งไปกว่านั้น ในปี 2024 จะมีการเลือกตั้งใน 40 ประเทศ ซึ่งรวมถึงสหรัฐฯ รัสเซีย อินเดีย และไต้หวัน โดยการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือน พ.ย. เป็นสถานการณ์สำคัญที่จะส่งผลต่อปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลกในระยะยาว ดังนั้นหากเกิดความไม่แน่นอนใดๆ ขึ้น ก็อาจส่งผลให้ตลาดเกิดความผันผวนในระยะสั้นได้

ในท้ายที่สุด ตราบใดที่คุณยังลงทุนในพอร์ตที่มีการกระจายการลงทุนที่ดี ตามระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมกับตัวคุณ ความผันผวนระยะสั้นในตลาดก็เป็นเพียง Noise หรือเสียงรบกวนเท่านั้น เพราะภาพระยะยาวยังคงชัดเจนว่า การ Stay Invested ในหุ้นและตราสารหนี้ จะทำให้คุณเห็นผลตอบแทนที่ชัดเจนมากขึ้นไม่ว่าเศรษฐกิจในระยะสั้นจะเป็นอย่างไร


หมายเหตุ: 

การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน; ผลการดำเนินงานในอดีตไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

ยศกร นิรันดร์วิชย, CFA

ยศกร นิรันดร์วิชย, CFA
กรรมการผู้จัดการ บลจ. สแทชอเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด